ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เวลากลางวันจำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันใช้อาวุธปืนและมีดพร้าเป็นอาวุธ ยิงและฟันประทุษร้ายร่างกายนายแนม เตชะพันธ์ ผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า โดยใช้มีดพร้าฟันผู้เสียหาย 2 ครั้งถูกที่แขนขวาและใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย 3 นัด แต่กระสุนไม่ถูกผู้เสียหายทั้งนี้โดยจำเลยกับพวกได้ลงมือกระทำความผิดและกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล เนื่องจากผู้เสียหายวิ่งหลบหนีได้ทันและแพทย์ได้ช่วยเหลือผู้เสียหายไว้ได้ทันที ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลยกับพวก เพียงแต่เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายถึงบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 และ 295 และริบปลอกกระสุนปืนของกลาง ส่วนอาวุธปืนของกลางคืนเจ้าของ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 จำคุก 2 ปี คืนอาวุธปืนของกลางแก่เจ้าของ ข้อหาและคำขออื่นให้ยก

โจทก์ โจทก์ร่วมและจำเลยต่างอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ให้จำคุก 5 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 3ฟังข้อเท็จจริงว่าการยิงปืนในที่เกิดเหตุเป็นเพียงยิงขู่โจทก์ร่วมจำเลยใช้มีดพร้าฟันโจทก์ร่วมโดยมีเจตนาเพียงทำร้ายร่างกายไม่ได้มีเจตนาฆ่า แต่โจทก์ร่วมได้รับอันตรายสาหัสจากบาดแผลที่ถูกจำเลยทำร้าย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297โจทก์และโจทก์ร่วมไม่ได้ฎีกาข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นที่ศาลล่างพิพากษายกฟ้องเป็นอันยุติ คงมีปัญหาวินิจฉัยตามที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยใช้มีดพร้าฟันทำร้ายโจทก์ร่วมหรือไม่… ศาลฎีกาเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมมีน้ำหนักมั่นคง พยานฐานที่อยู่ของจำเลยฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมไม่ได้รูปคดีเชื่อว่าจำเลยเป็นคนร้ายใช้อาวุธมีดพร้าฟันโจทก์ร่วมจริง ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น อนึ่ง คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ฟังว่า จำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์ร่วมเป็นเหตุให้ป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน เป็นอันตรายถึงสาหัส ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 แต่ปรากฏว่าคดีนี้ฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่า โจทก์ร่วมได้รับอันตรายสาหัสอย่างไร จึงพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 ไม่ได้ ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1450/2529 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดลพบุรี โจทก์ นายประยงค์หรือยงค์ เรืองสุขจำเลย"

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th