ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

จำเลยไม่ได้ให้การ แต่แถลงขอต่อสู้คดี

ศาลชั้นต้นพิพากษา ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ให้รอการกำหนดโทษไว้มีกำหนด 2 ปี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ยุติว่า เมื่อวันที่3 มีนาคม 2529 จำเลยกับพวกได้ไปพบนางบุญนำ กุณธิ ผู้เสียหายที่บริษัทของผู้เสียหายเพื่อทวงถามให้ผู้เสียหายคืนเงินจำนวน23,000 บาท ให้แก่นายสังข์ทอง มัจจุปะ ตัวแทนของนายเจิด เฉยฉินตามที่นายเจิดได้ร้องทุกข์กล่าวหาว่าผู้เสียหายได้ฉ้อโกงเงินจำนวนดังกล่าวไปจากนายเจิดโดยผู้เสียหายได้รับเงินจำนวนนี้ไปจากนายเจิดโดยสัญญาว่าจะส่งนายเจิดไปทำงานที่ต่างประเทศแต่ไม่ได้ส่งไปตามสัญญา จำเลยกับพวกพาผู้เสียหายกับพวกไปเจรจาเพื่อตกลงกันที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินีตามที่นายเจิดไปแจ้งความไว้ แต่ตกลงกันไม่ได้ จากนั้นจึงพากันไปเจรจากันต่อที่ห้องพักของจำเลยที่แฟลตเจ้าพนักงานตำรวจกองปราบปรามและผู้เสียหายได้ค้างคืนที่ห้องพักของจำเลยดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 5 มีนาคม2529 ผู้เสียหายยังตกลงกับนายสังข์ทองตัวแทนของนายเจิดไม่ได้ จำเลยจึงให้สิบตำรวจเอกทวีชาติ สังข์ขาว ส่งตัวผู้เสียหายแก่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีเพื่อดำเนินคดีต่อไปมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้องโจทก์หรือไม่ ฯลฯจากพยานหลักฐานดังกล่าว เป็นการเจือสมข้อนำสืบของจำเลยที่ว่าในวันที่ 3 มีนาคม 2529 ยังมิได้ทำการจับกุมผู้เสียหาย จึงมิได้ส่งตัวผู้เสียหายต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีในวันนั้น เป็นเพราะผู้เสียหายและนายกิตติกาญจน์ บุตรชายของผู้เสียหายเกรงว่านายสังข์ทองตัวแทนของนายเจิดจะไม่ยอมปล่อยตัวผู้เสียหายไปจึงได้ให้นายกิตติกาญจน์ทำบันทึกไว้ว่า ผู้เสียหายสมัครใจพักอยู่ที่ห้องของจำเลยโดยมิได้มีผู้ใดบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใดแม้จะฟังว่าบันทึกการจับกุม ตามเอกสารหมาย จ.3 จะได้ทำครั้งแรกในวันที่ 3 มีนาคม 2529 แต่ยังมิได้มีการจับกุมผู้เสียหายตามบันทึกการจับกุมนั้น ย่อมต้องถือว่าจำเลยยังมิได้จับกุมผู้เสียหายตามความเป็นจริง เพิ่งจะมาจับกุมผู้เสียหายในวันที่ 5 มีนาคม 2529เมื่อคดีตกลงกันไม่ได้ จึงได้มีการแก้ไขวันที่จับกุมผู้เสียหายให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ทั้งนี้เพราะนายสังข์ทองเบิกความยืนยันว่า แม้จะได้ออกหมายจับผู้เสียหายไว้แล้ว แต่ตนมิได้ขอให้จับกุมผู้เสียหายในวันที่ 3 มีนาคม 2529 เพียงแต่ขอให้จำเลยช่วยทวงเงินคืนจากผู้เสียหายเท่านั้น จึงไม่ถือว่ามีการจับกุมผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78(4) ในวันนั้นการที่จำเลยให้ผู้เสียหายพักค้างคืนอยู่ที่ห้องพักของจำเลยก็มิได้มีการควบคุมผู้เสียหายแต่อย่างใด หากแต่ผู้เสียหายสมัครใจอยู่ที่นั่นเองเพราะเป็นคนจังหวัดเดียวกับจำเลยเนื่องจากเกรงว่านายสังข์ทองจะให้ส่งตัวผู้เสียหายไปคุมขังที่สถานีตำรวจ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th