ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2521 จำเลยจ้างโจทก์ทำงานเป็นลูกจ้าง ครั้งสุดท้ายทำหน้าที่ประธานบริษัท ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 15,000 บาทต่อมาเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2531จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิด โดยจำเลยอ้างเหตุเกษียณอายุ 55 ปี โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน แต่จำเลยไม่ยอมจ่ายให้โจทก์ อนึ่งการเลิกจ้างของจำเลยเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม โจทก์ขอเรียกค่าเสียหายเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้ายที่จำเลยจะต้องจ่ายในระยะเวลา 4 ปี ขอให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหายให้แก่โจทก์

จำเลยให้การต่อสู้คดี

ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า โจทก์เริ่มทำงานกับจำเลยเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2521 จนปลายปี พ.ศ. 2529 จำเลยมีหนังสือถึงโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.3 แจ้งว่าโจทก์จะอายุครบ 56 ปี และเกษียณอายุในเดือนพฤศจิกายน 2529 เนื่องจากโจทก์ทำงานกับจำเลยมาเป็นเวลานาน คณะกรรมการบริษัทจำเลยจึงแต่งตั้งโจทก์เป็นประธานบริษัทซึ่งจะมาทำงานเป็นบางเวลา พร้อมกันนั้นจำเลยมีหนังสือถึงโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.5 กำหนดว่าโจทก์จะเกษียณอายุในวันที่ 2พฤศจิกายน 2529 เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทจำเลยบริษัทจำเลยจะจ่ายเงินแก่โจทก์จากเดือนธันวาคม 2529 ถึงเดือนธันวาคม2530 พร้อมทั้งเสนอรายการเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ โจทก์ได้ลงชื่อในเอกสารดังกล่าวและได้ปฏิบัติงานตลอดมาจนเมื่อวันที่1 มกราคม 2531 โจทก์ไม่ได้ไปทำงานเพราะจำเลยไม่ได้ต่อสัญญาให้โจทก์อีกและไม่ได้จ่ายค่าชดเชย แต่ตามเอกสารหมาย จ.3 และจ.5 ที่จำเลยมีถึงโจทก์นั้นไม่ใช่หนังสือเลิกจ้างเพราะเกษียณอายุและตามเอกสารหมาย จ.5 ไม่มีข้อกำหนดว่าพ้นวันที่ 31 ธันวาคม2530 แล้ว โจทก์จะต้องพ้นจากหน้าที่ไปโดยไม่มีการต่ออายุสัญญาอีกการที่จำเลยไม่ต่อสัญญาให้โจทก์ย่อมเป็นการไม่ยอมให้โจทก์ทำงานต่อไป จึงเป็นการเลิกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46 วรรคสอง จำเลยต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ แต่ไม่เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ คำขออื่นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า จำเลยอุทธรณ์ว่า ตามหนังสือเอกสารหมาย จ.5 เป็นสัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างแน่นอนซึ่งครบกำหนดระยะเวลาการจ้างเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2530 โจทก์ได้ออกจากงานเมื่อครบกำหนดระยะเวลาการจ้าง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่า จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2531 แต่โจทก์ก็ยังกล่าวอ้างต่อไปว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุ จึงมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุหรือไม่ ปัญหานี้ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้มีหนังสือตามเอกสารหมาย จ.3 แจ้งต่อโจทก์ว่า โจทก์จะต้องเกษียณอายุในเดือนพฤศจิกายน 2529 และยังมีเอกสารหมาย จ.5 แจ้งต่อโจทก์เกี่ยวกับการเกษียณอายุว่า "ตามนโยบายของบริษัทท่านได้บรรลุถึงการเกษียณอายุในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2529…" ศาลฎีกาเห็นว่า ตามเอกสารดังกล่าวแปลความได้ว่า จำเลยได้เลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุแล้วตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2529 ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้เลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียษอายุในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2529จึงไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ปรากฏว่าจำเลยได้เลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2529 โดยไม่จ่ายค่าชดเชย จำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ ศาลฎีกาเห็นด้วยในผล เมื่อจำเลยมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์เมื่อเลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2529 อยู่แล้ว อุทธรณ์ของจำเลยที่โต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลางว่า การที่จำเลยไม่ต่ออายุสัญญาจ้างให้โจทก์ตามเอกสารหมาย จ.5 หลังจากครบกำหนดระยะเวลาการจ้างแน่นอนเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2531 เป็นการเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลาจ้างแน่นอนโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยนั้น จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่เป็นสาระแก่คดี ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th