ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองตำแหน่งกำนันตำบลและเป็นประธานคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำตำบล(คชก.ตำบล) มีหน้าที่รับอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ คชก.ตำบลจากคู่กรณีส่งไปยังประธานคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมประจำจังหวัดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2530 โจทก์นำอุทธรณ์คำวินิจฉัยของ คชก.ตำบลไปยื่นต่อจำเลย จำเลยปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ดังกล่าว ต่อมาวันที่26 พฤษภาคม 2530 โจทก์ส่งอุทธรณ์ดังกล่าวทางไปรษณีย์ตอบรับไปให้จำเลย จำเลยได้รับอุทธรณ์แล้ว จำเลยไม่ส่งคำอุทธรณ์ของโจทก์ไปยังประธาน คชก.จังหวัด อันเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นเอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งอุทธรณ์ของโจทก์ดังกล่าว ทำให้อุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้รับการวินิจฉัย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 158, 162, 90, 91

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 158 จำคุก 1 ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์มีนายระลึกและนางสาวสำราญเป็นพยานเบิกความว่า เมื่อโจทก์ได้รับหนังสือจากทางอำเภอเมืองชัยนาทให้ยื่นอุทธรณ์ต่อประธาน คชก.ตำบลชัยนาทแล้ว นายระลึกได้ส่งอุทธรณ์ของโจทก์โดยทางไปรษณีย์ตอบรับไปให้จำเลย และนางสาวสำราญเป็นผู้รับไว้ ซึ่งรวมทั้งจดหมายอื่น ๆ อีกหลายฉบับ เมื่อรับแล้วนางสาวสำราญนำจดหมายทั้งหมดไปวางไว้บนโต๊ะใต้ถุนบ้าน วันนั้นจำเลยไม่อยู่บ้านวันรุ่งขึ้นนางสาวสำราญก็เดินทางไปกรุงเทพมหานครเห็นว่า หลักทั่วไปบุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 158 บัญญัติว่า "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์หรือเอกสารอันเป็นหน้าที่ของตนที่จะปกครองหรือรักษาไว้หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้นต้องระวางโทษ…" คดีนี้ได้ความแต่เพียงว่านางสาวสำราญบุตรจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อรับอุทธรณ์ของโจทก์ซึ่งส่งโดยทางไปรษณีย์ จำเลยมิได้เป็นผู้รับไว้ และไม่ได้อยู่บ้าน ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้กระทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้นเอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งอุทธรณ์ของโจทก์หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้นแต่อย่างใด ทั้งการลงโทษจำเลยต้องได้ความว่าจำเลยมีเจตนากระทำตามข้อความในมาตราดังกล่าวพยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมาฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 158

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th