ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า ก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ทั้งสองเคยฟ้องขับไล่จำเลยนี้กับพวกรวม 5 คน ออกจากที่ดินของโจทก์ทั้งสอง คดีดังกล่าวศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งห้าอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขาย เป็นการยึดถือที่พิพาทแทนโจทก์ และเนื่องจากมีข้อโต้แย้งตามสัญญาจะซื้อจะขาย โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งห้าออกจากที่พิพาท ปรากฏตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 458/2528 ของศาลชั้นต้นต่อมาโจทก์ทั้งสองจึงฟ้องขับไล่จำเลยนี้อีก ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยมิได้เป็นคู่สัญญาจะซื้อจะขายกับโจทก์ทั้งสองและพิพากษายกฟ้อง ปรากฏตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 204/2533 ของศาลชั้นต้น โจทก์ทั้งสองเห็นว่าจำเลยรับโอนที่พิพาทมาจากนายสุดหรือสุดชา ซึ่งเป็นคู่สัญญาจะซื้อจะขายกับโจทก์จึงได้มีหนังสือบอกกล่าวให้นายสุดหรือสุดชาชำระเงินค่าที่ดินที่ค้างชำระ แต่นายสุดชาไม่ชำระภายในกำหนดเวลาตามหนังสือบอกกล่าว สัญญาจะซื้อจะขายที่พิพาทจึงเป็นอันเลิกกันจำเลยไม่มีสิทธิอยู่ในที่พิพาทอีกต่อไป โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกจากที่พิพาทแล้วแต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท ห้ามเกี่ยวข้องอีกต่อไป และให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่พิพาท

จำเลยให้การว่า จำเลยซื้อที่พิพาทมาจากนายสุดหรือสุดชาแล้วเข้าทำประโยชน์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 โจทก์ไม่เคยห้ามหรือเข้าเกี่ยวข้องกับที่พิพาทเลย ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 204/2533 ของศาลชั้นต้น จำเลยรับโอนที่พิพาทมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนและครอบครองทำประโยชน์ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 204/2533 โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทซึ่งจำเลยอยู่โดยอาศัยสิทธิของนายสุดหรือสุดชากับพวกที่ทำสัญญาจะซื้อจะขายจากโจทก์ แล้วผิดสัญญาจะซื้อจะขายไม่ชำระเงินส่วนที่เหลือ โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยชำระเงินส่วนที่ค้างชำระแต่จำเลยไม่ยอมชำระถือว่าสัญญาจะซื้อจะขายเป็นอันเลิกกัน ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า สัญญาจะซื้อจะขายเป็นเรื่องระหว่างโจทก์และนายสุดกับพวก จำเลยมิได้เป็นคู่สัญญาจึงไม่จำต้องปฏิบัติตามหนังสือบอกกล่าว ทั้งโจทก์มิได้กล่าวอ้างว่าจำเลยอยู่ในที่พิพาทโดยละเมิด โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทโดยอ้างว่านายสุดกับพวกไม่ชำระเงินที่ค้างชำระตามสัญญาจะซื้อจะขาย โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวให้นายสุดหรือสุดชากับพวกชำระแล้ว แต่นายสุดหรือสุดชากับพวกไม่ชำระถือว่าสัญญาจะซื้อจะขายเป็นอันเลิกกัน จำเลยอยู่โดยอาศัยสิทธิของนายสุดหรือสุดชาจึงเป็นการอยู่โดยไม่มีสิทธิเป็นการละเมิดเห็นว่า เหตุที่อ้างมาในฟ้องคดีนี้เป็นเหตุที่อ้างขึ้นใหม่คนละเหตุกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 204/2533 ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่ซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 204/2533 ของศาลชั้นต้น และวินิจฉัยต่อไปว่าแม้จำเลยรับโอนที่พิพาทมาโดยสุจริตจากนายสุดหรือสุดชาเสียค่าตอบแทนและเข้าครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของก็เป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ซึ่งจะต้องมีการทำสัญญากันระหว่างเจ้าหนี้คือโจทก์กับลูกหนี้คนใหม่คือจำเลย ปรากฏว่าโจทก์กับจำเลยไม่ได้ทำสัญญากันใหม่ หนี้ใหม่ก็ไม่เกิดขึ้น โจทก์กับจำเลยจึงไม่มีนิติสัมพันธ์กันนายสุดหรือสุดชากับพวกและจำเลยอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขาย อันเป็นการครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์ เมื่อสัญญาจะซื้อจะขายเลิกกันแล้ว นายสุดหรือสุดชากับพวกและจำเลยไม่มีสิทธิที่จะอยู่ในที่พิพาทต่อไป การที่จำเลยยังคงอยู่ในที่พิพาทต่อมาจึงเป็นการละเมิด โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้อง

พิพากษากลับว่า ให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาทห้ามเกี่ยวข้องอีกต่อไป และให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่พิพาท

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th