คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6559/2539
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 119 เดิม
โจทก์เพียงแต่ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจในช่องผู้มอบอำนาจเพียงชื่อเดียวโดยมิได้กรอกข้อความหรือยินยอมให้ผู้อื่นกรอกข้อความใดๆลงไปเมื่อมีการกรอกข้อความโดยที่มิได้รับความยินยอมจากโจทก์จึงเป็นการปลอมเอกสารหนังสือมอบอำนาจและหนังสือสัญญาขายฝากที่ดินซึ่งทำขึ้นโดยอาศัยใบมอบอำนาจดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะโจทก์สำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรมจึงตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา119เดิมไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่6467 พร้อมสิ่งปลูกสร้าง โจทก์ทำสัญญากู้ยืมเงินจากจำเลยที่ 1 มีจำเลยที่ 2 ลงชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงินด้วย โจทก์มอบโฉนดที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 1 เป็นประกันการชำระหนี้ จำเลยที่ 1 และที่ 2 หลอกลวงโจทก์ให้ลงลายมือชื่อไว้ในหนังสือมอบอำนาจตามแบบพิมพ์เปล่าของกรมที่ดินซึ่งมิได้กรอกข้อความใด ๆ มอบให้แก่จำเลยที่ 1เพื่อยึดถือไว้เป็นประกันอีกชั้นหนึ่ง ต่อมาโจทก์นำต้นเงินและดอกเบี้ยไปชำระหนี้จำเลยที่ 1 พร้อมทั้งขอรับโฉนดที่ดินและหนังสือมอบอำนาจคน แต่จำเลยที่ 1 และที่ 2 บ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับเงินและไม่คืนเอกสารให้ อ้างว่าญาติของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของเงินกู้ไปต่างจังหวัดยังไม่กลับ ให้ติดต่อภายหลังโจทก์พยายามติดต่ออีกหลายครั้ง แต่จำเลยที่ 1 ก็ผัดผ่อนเรื่อยมา โจทก์ไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนนทบุรี จึงทราบว่าจำเลยที่ 1และที่ 2 นำหนังสือมอบอำนาจที่โจทก์ให้ไว้เป็นประกันไปกรอกข้อความจดทะเบียนโอนขายฝากที่ดินของโจทก์แก่จำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 2รู้ดีอยู่แล้วว่า โจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 และที่ 2กระทำนิติกรรมใด ๆ ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว นิติกรรมขายฝากดังกล่าวจึงเป็นโมฆะ เมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาขายฝากแล้ว จำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้จดทะเบียนไถ่ถอนนิติกรรมขายฝากแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยทั้งสามทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้พิพากษาว่าหนังสือมอบอำนาจและนิติกรรมขายฝากที่ดินระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 3 เป็นโมฆะ ให้เพิกถอนชื่อจำเลยที่ 3 ออกจากการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 6467และใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าวให้จำเลยทั้งสามส่งมอบที่ดินโฉนดเลขที่ 6467 ให้แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 3 ให้การว่า จำเลยที่ 3 จดทะเบียนรับซื้อฝากที่ดินของโจทก์ โดยโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ทำนิติกรรมขายฝากแทนจำเลยที่ 3 รับจดทะเบียนเป็นผู้รับซื้อฝากต่อเจ้าพนักงานที่ดินโดยสุจริต และมอบเงินตามสัญญาขายฝากไปครบถ้วนถูกต้องแล้ว เป็นการรับซื้อฝากโดยมีค่าตอบแทน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้เพิกถอนหนังสือสัญญาขายฝากที่ดิน ให้จำเลยทั้งสามส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 6467ให้แก่โจทก์
จำเลย ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์เพียงแต่ลงชื่อในหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.23 ในช่องผู้มอบอำนาจเพียงชื่อเดียว โดยมิได้กรอกข้อความหรือยินยอมให้ผู้อื่นกรอกข้อความใด ๆ ลงไปเมื่อมีการกรอกข้อความโดยที่มิได้รับความย ินยอมจากโจทก์ จึงเป็นการปลอมเอกสาร หนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.23 และหนังสือสัญญาขายฝากที่ดินตามเอกสารหมาย จ.24 ซึ่งทำขึ้นโดยอาศัยใบมอบอำนาจดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะโจทก์สำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรม จึงตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 119 เดิม ไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาง จำรัส จัดกระบวนพล จำเลย - นาย อุทัย ยาคุ้มภัย กับพวก
ชื่อองค์คณะ ปรีชา บูรณะไทย บุญธรรม อยู่พุก ณรงค์ ตันติเตมิท
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan
