สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6591/2539

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6591/2539

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 143, 271

โจทก์จำเลยพิพาทกันโดยตรงว่าโจทก์หรือจำเลยจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการโอนค่าอากรแสตมป์และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการที่จำเลยจะจดทะเบียนโอนขายในราคาตามสัญญาจะซื้อขายให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาในส่วนที่เกินจากราคาประเมินที่ออกกันฝ่ายละครึ่งโดยโจทก์จำเลยตกลงไปจดทะเบียนโอนขายกันที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการสาขาบางพลี ในวันที่26ตุลาคม2532เมื่อถึงวันนัดไม่อาจจดทะเบียนโอนขายกันได้เนื่องจากโจทก์จำเลยต่างโต้แย้งการชำระค่าธรรมเนียมในส่วนที่ราคาเกินจากราคาประเมินจึงเกิดข้อพิพาทกันดังกล่าวดังนี้ราคาประเมินตามคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองนั้นย่อมมีความหมายถึงราคาประเมินที่ใช้อยู่ในขณะเกิดข้อพิพาทเมื่อวันที่36ตุลาคม2532หาใช่มีความหมายถึงราคาประเมินในขณะทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทเมื่อวันที่28กันยายน2537ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังไม่

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนขายที่ดินโฉนดเลขที่ 32741 และ 32743 ให้แก่โจทก์ในราคาตามสัญญาจะซื้อขายเอกสารหมาย จ.1 โดยให้จำเลยเป็นฝ่ายชำระค่าธรรมเนียมการโอน ค่าอากรแสตมป์ และค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในส่วนที่เกี่ยวกับราคาซื้อขายตามบัญชีกำหนดจำนวนทุนทรัพย์ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน(ราคาประเมิน) ที่กำหนดไว้สำหรับที่ดินทั้งสองแปลงนั้น และให้โจทก์และจำเลยชำระค่าธรรมเนียมการโอน ค่าอากรแสตมป์และค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนที่เกินจากราคาประเมินฝ่ายละครึ่ง หากจำเลยไม่ปฎิบัติตามให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยได้ต่อเมื่อโจทก์แสดงหลักฐานการวางเงินค่าที่ดินที่สำนักงานวางทรัพย์ กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม สำหรับราคาที่ดินทั้งสองแปลงในส่วนคงเหลือหลังจากหักค่าธรรมเนียมการโอนค่าอากรแสตมป์ และค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนที่จำเลยจะต้องชำระดังกล่าวข้างต้นออกแล้ว

จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นอธิบายคำพิพากษาคำว่า ราคาประเมินตามคำพิพากษาหมายความว่าอย่างไร

โจทก์ไม่คัดค้าน

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ราคาประเมินตามคำพิพากษานั้นหมายถึงราคาประเมินของกรมที่ดินในวันที่ทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า ราคาประเมินตามคำพิพากษาหมายถึงราคาประเมินที่ใช้อยู่ในขณะเกิดข้อพิพาท (ราคาประเมินในวันที่ 26 ตุลาคม 2532)

โจทก์ ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่าราคาประเมินตามคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองหมายถึงราคาประเมินที่ใช้อยู่ในขณะเกิดข้อพิพาทเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2532 หรือราคาประเมินในขณะทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2537 เห็นว่าคดีนี้ข้อเท็จจริงถึงที่สุดแล้วโจทก์จำเลยพิพาทกันโดยตรงว่าโจทก์หรือจำเลยจะต้องชำระค่าธรรมเนียมการโอน ค่าอากรแสตมป์ และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการที่จำเลยจะจดทะเบียนโอนขายทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์ โดยโจทก์จำเลยตกลงไปจดทะเบียนโอนขายกันที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการสาขาบางพลี ในวันที่ 26 ตุลาคม 2532 เมื่อถึงวันนัดไม่อาจจดทะเบียนโอนขายกันได้เนื่องจากโจทก์จำเลยต่างโต้แย้งการชำระค่าธรรมเนียมในส่วนที่ราคาเกินจากราคาประเมินจึงเกิดข้อพิพาทกันดังกล่าว ดังนี้ราคาประเมินตามคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองนั้นย่อมมีความหมายถึงราคาประเมินที่ใช้อยู่ในขณะเกิดข้อพิพาทเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2532 หาใช่มีความหมายถึงราคาประเมินในขณะทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2537ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังไม่ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาย บุญญา จริยะเวช จำเลย - นาย อดุล ชโยภาส

ชื่อองค์คณะ ไพศาล รางชางกูร อร่าม หุตางกูร สมพล สัตยาอภิธาน

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th