ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 ทวิ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 4, 11, 73, 74 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 ริบไม้มะค่าของกลาง และให้จำเลยทั้งสาม คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารของจำเลยทั้งสามออกไปจากที่ดินที่บุกรุก

จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 ทวิ วรรคสอง พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง, 73 วรรคหนึ่ง (ที่ถูก ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83) การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ จำคุกคนละ 6 เดือน และปรับคนละ 6,000 บาท ฐานร่วมกันทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 6 เดือน และปรับคนละ 6,000 บาท รวมจำคุกคนละ 12 เดือน และปรับคนละ 12,000 บาท จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 6 เดือน และปรับคนละ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยทั้งสาม โดยให้จำเลยทั้งสามไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ภายในกำหนดเวลา 2 ปี และให้จำเลยทั้งสามกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยทั้งสามเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบไม้มะค่าของกลาง ให้จำเลยทั้งสาม คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารจำเลยทั้งสามออกไปจากที่ดินที่บุกรุก

โจทก์อุทธรณ์ โดยอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 3 ซึ่งได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุดรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 แผนกคดีสิ่งแวดล้อมพิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานร่วมกันบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐ จำคุกคนละ 3 เดือน ฐานร่วมกันทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 3 เดือน รวมจำคุกคนละ 6 เดือน ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คนละกึ่งหนึ่งแล้ว คงจำคุกคนละ 3 เดือน ไม่ปรับและไม่รอการลงโทษ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยทั้งสามฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อมวินิจฉัยว่า ที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองป่าที่ดินภูเขากระโดนอันเป็นที่ดินของรัฐ โดยเป็นที่ราชพัสดุ กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ อยู่ในความครอบครองดูแลของกรมธนารักษ์เท่านั้น ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าเป็นการกระทำแก่ที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน หรือที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108 ทวิ วรรคหนึ่ง เท่านั้น การที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษตามมาตรา 108 ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นบทหนักมานั้น จึงเป็นการลงโทษเกินคำขอและที่มิได้กล่าวในฟ้องอันไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคหนึ่ง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และเห็นสมควรระบุความผิดตามอนุมาตราแห่งมาตรา 9 ของประมวลกฎหมายที่ดินให้ชัดเจนและวางโทษฐานนี้เสียใหม่ให้เหมาะสมแก่ความผิดด้วย

พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน จำเลยทั้งสามมีความผิดตามมาตรา 9 (1) (2) (3), 108 ทวิ วรรคหนึ่ง ลงโทษจำคุกคนละ 2 เดือน ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คนละกึ่งหนึ่งแล้ว คงจำคุกคนละ 1 เดือน รวมกับโทษฐานร่วมกันทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นจำคุกคนละ 2 เดือน 15 วัน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา สว.(อ)209/2556

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th