ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งได้รับอนุญาตให้ขับขี่รถยนต์ประเภทส่วนบุคคลได้ขับรถแข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานจราจรขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 134, 160 ทวิ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2535 มาตรา 16, 31 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33ริบของกลาง สั่งเพิกถอนหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่จำเลย

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 160 ทวิพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2535 มาตรา 31ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ลงโทษจำคุก 2 เดือนและปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกรอไว้มีกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบรถยนต์ของกลางพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 3 เดือน ให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้ง เป็นเวลา 1 ปีและให้ร่วมโครงการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว จำเลยยื่นคำร้องว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลาง มิได้ให้ริบวิทยุเทป เครื่องเสียงพร้อมลำโพงและเครื่องปรับอากาศซึ่งติดตั้งในรถยนต์ของกลางด้วย อุปกรณ์ดังกล่าวมิใช่ส่วนควบของรถยนต์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 144ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคืนวิทยุ เทป เครื่องเสียงพร้อมลำโพงและเครื่องปรับอากาศดังกล่าวแก่จำเลย

ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ริบรถยนต์ของกลางโดยไม่มีคำสั่งเป็นอย่างอื่นย่อมหมายความรวมถึง วิทยุ เทป เครื่องเสียงพร้อมลำโพง และเครื่องปรับอากาศที่ติดอยู่กับรถยนต์ของกลางด้วยและจำเลยต้องทำเป็นคำฟ้องอุทธรณ์มิใช่ทำเป็นคำร้องจึงให้งดการไต่สวนคำร้องและยกคำร้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า มีเหตุที่จะคืนเครื่องเสียงพร้อมลำโพงและเครื่องปรับอากาศติดรถยนต์ให้แก่จำเลยได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเครื่องอุปกรณ์ในคดีนี้จำเลยมีเจตนาชัดแจ้งที่จะให้เป็นของใช้ประจำกับรถยนต์เป็นอาจิณ จึงพอที่จะถือได้ว่าเป็นเครื่องอุปกรณ์ของรถยนต์พิพาท อีกทั้งการยึดของกลางคดีนี้ศาลชั้นต้นสั่งให้ริบรถยนต์ก็ย่อมจะต้องหมายความรวมทั้งทรัพย์สินที่จำเลยขอให้ศาลคืนด้วย

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th