สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6909/2543

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6909/2543

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 175, 176, 177 วรรคสาม

เมื่อจำเลยฟ้องแย้งเข้ามาในคำให้การ โจทก์ก็คือจำเลยในฟ้องแย้ง คดีตามฟ้องแย้งจึงมีคู่ความครบถ้วนที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้ การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องเดิม ก็คงมีผลเฉพาะคดีโจทก์ว่าไม่มีฟ้องเดิมที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปเท่านั้น หามีผลให้ฟ้องแย้งของจำเลยตกไปด้วยไม่

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองและบริวารออกจากที่ดินพิพาทและให้โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง ให้จำเลยทั้งสองและบริวารถอนหรือทำลายข้าวเปลือกที่เข้าไปหว่านในที่ดินพิพาท และให้ชดใช้ค่าเสียหายปีละ 20,000บาท นับแต่ปี 2542 เป็นต้นไปจนกว่าจะออกไปจากที่ดินพิพาท

จำเลยทั้งสองให้การและฟ้องแย้ง ขอให้ขับไล่โจทก์และบริวารออกไปจากที่ดินพิพาท และใช้ค่าขาดประโยชน์จากการทำนาปีละ 20,000 บาท นับแต่ปี 2542 เป็นต้นไปจนกว่าโจทก์จะออกจากที่พิพาท

หลังจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การและฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง จำเลยทั้งสองคัดค้านว่าได้ฟ้องแย้งให้ขับไล่โจทก์พร้อมบริวารและชดใช้ค่าขาดประโยชน์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องและจำหน่ายคดี คืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์ 11,000 บาท คืนค่าขึ้นศาลในส่วนฟ้องแย้งให้จำเลยทั้งสอง 300 บาท

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาตามฎีกาจำเลยทั้งสองมีเพียงว่า การที่ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีเพราะโจทก์ถอนฟ้อง คำฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองจะตกไปหรือไม่เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสามบัญญัติว่า "จำเลยจะฟ้องแย้งมาในคำให้การก็ได้ แต่ถ้าฟ้องแย้งนั้นเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมแล้ว ให้ศาลสั่งให้จำเลยฟ้องเป็นคดีต่างหาก" บทบัญญัติดังกล่าวให้อำนาจจำเลยจะฟ้องโจทก์มาในคำให้การได้ ถ้าคำฟ้องแย้งเกี่ยวข้องกับคำฟ้องเดิมเท่านั้น ฉะนั้น เมื่อจำเลยทั้งสองฟ้องแย้งเข้ามาในคำให้การ โจทก์ก็คือจำเลยในฟ้องแย้ง คดีตามฟ้องแย้งจึงมีคู่ความครบถ้วนที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้ การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องเดิม ก็คงมีผลเฉพาะคดีโจทก์ว่าไม่มีฟ้องเดิมที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปเท่านั้นหามีผลให้ฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองตกไปด้วยไม่ การที่ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีฟ้องแย้งจำเลยทั้งสองให้ไปยื่นใหม่ จึงไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา

พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3ในส่วนที่เกี่ยวกับฟ้องแย้ง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับคำฟ้องแย้งของจำเลยทั้งสองต่อไป และมีคำพิพากษาตามรูปคดี

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายพิศ พื้นนวนหรือพื้นนวล จำเลย - นางแสน ประเมินชัย กับพวก

ชื่อองค์คณะ ปราโมทย์ ชพานนท์ สุเมธ ตังจิวางกูร ชวลิต ยอดเณร

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th