ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัดสาขาถนนตากสิน ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2530 จำนวนเงิน140,000 บาท ชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์นำไปขายลดให้แก่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาท่าพระ แต่เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารเรียกเก็บเงินไม่ได้ จึงหักเงินในบัญชีของโจทก์ชำระหนี้พร้อมกับคืนเช็คแก่โจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็ค ได้ทวงถามจำเลยให้ชำระหนี้เงินตามเช็คแล้ว แต่จำเลยเพิกเฉย ขอบังคับให้จำเลยชำระหนี้เงินตามเช็คและดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง จำนวน 152,459 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงิน 140,000 บาทนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การว่า โจทก์มิใช่ผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายและฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้เงินจำนวน 140,000 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย แต่ดอกเบี้ยคิดถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน10,459 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ เห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง บัญญัติว่า "คำฟ้องต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น" ข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์บรรยายคำฟ้องไว้ว่า จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทและมอบเช็คพิพาทซึ่งเป็นเช็คที่สั่งจ่ายเงินแก่ผู้ถือให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ โจทก์นำเช็คพิพาทไปขายลดแก่ธนาคารกรุงเทพ จำกัดสาขาท่าพระ ถึงกำหนดจ่ายเงินตามเช็ค ธนาคารกรุงเทพ จำกัดสาขาท่าพระ เรียกเก็บเงินจากธนาคารตามเช็คไม่ได้ จึงได้หักเงินจากบัญชีของโจทก์ไปตามจำนวนเงินในเช็คแล้วมอบเช็คพิพาทคืนแก่โจทก์ โจทก์จึงกลับเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามกฎหมาย และได้ทวงถามจำเลยให้ชำระเงินตามเช็คแล้ว จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวแสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้วว่า จำเลยผู้สั่งจ่ายเช็คจะต้องรับผิดชำระเงินตามเช็คแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงเมื่อธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายอันเป็นข้ออ้างให้จำเลยรับผิดตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914 ประกอบด้วยมาตรา 989 นั่นเอง กับได้มีคำขอบังคับให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินครบถ้วนสมบูรณ์ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรคสองแล้ว แม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายในคำฟ้องว่าโจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาอย่างไร เมื่อใด ตลอดจนไม่ได้บรรยายถึงวันที่โจทก์เข้ายึดถือเช็คและใช้เงินตามเช็คนั้น ก็ไม่ทำให้คำฟ้องของโจทก์ที่สมบูรณ์แล้ว กลับเป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุมไปได้ เพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวมิใช่สภาพแห่งข้อหาที่กฎหมายบังคับให้ต้องแสดงไว้ในคำฟ้อง

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th