สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6928/2537

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6928/2537

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 27, 208

จำเลยมิได้ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและคำขอนั้นมิได้โต้แย้งคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นอันเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208แต่เมื่อศาลชั้นต้นมิได้ส่งหมายแจ้งวันนัดชี้สองสถานให้จำเลยทราบซึ่งจะถือว่าจำเลยทราบวันนัดสืบพยานตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ในวันชี้สองสถานไม่ได้ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาย่อมเป็นกรณีที่มิได้ปฎิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมและเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาให้เพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาอันเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสีย

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสี่ชำระหนี้ตามสัญญายืมและค้ำประกัน จำเลยทั้งสี่ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสี่ขาดนัดพิจารณาและพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียวแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงิน พร้อมทั้งดอกเบี้ยแก่โจทก์กับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์

จำเลยทั้งสี่ยื่นคำร้องว่า จำเลยทั้งสี่และทนายจำเลยทั้งสี่มิได้มาศาลในวันนัดชี้สองสถานและวันนัดสืบพยานโจทก์ เนื่องจากจำเลยทั้งสี่และทนายจำเลยทั้งสี่ไม่ทราบนัด จำเลยทั้งสี่ได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้ ศาลได้มีคำสั่งให้รับคำให้การของจำเลยทั้งสี่และมีคำสั่งให้สำเนาให้โจทก์นัดชี้สองสถาน หมายแจ้งวันนัดให้ทนายโจทก์และทนายจำเลยทั้งสี่ทราบนัด ไม่พบ ไม่มีผู้ใดรับแทนโดยชอบให้ปิด แต่ศาลได้ออกหมายนัดชี้สองสถานให้ทนายโจทก์ทราบแต่เพียงฝ่ายเดียวโดยไม่ได้ออกหมายนัดชี้สองสถานให้จำเลยทั้งสี่ทราบ จำเลยทั้งสี่และทนายจำเลยทั้งสี่มิได้มาศาลตามกำหนด คดีนี้ถ้าจำเลยทั้งสี่ได้นำพยานเข้าสืบแล้วจะต้องชนะคดีเพราะข้อเท็จจริงมิได้เป็นดังคำฟ้องของโจทก์ ขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีปิดคำบังคับสำหรับจำเลยทั้งสี่วันที่ 31 มกราคม 2536 พ้นกำหนดสิบห้าวันนับแต่เวลาที่ได้ปิดคำบังคับแล้วไม่ปรากฎว่ามีพฤติการณ์นอกเหนือที่มิอาจบังคับได้อันเป็นเหตุให้จำเลยทั้งสี่ไม่อาจยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ในเวลาที่กฎหมายกำหนดได้ การร้องขอพิจารณาคดีใหม่นี้ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ยกคำร้องขอ

จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาให้ยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นส่งหมายแจ้งวันนัดชี้สองสถานแก่จำเลยทั้งสี่ให้ถูกต้องแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "แม้จำเลยทั้งสี่มิได้ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและไม่ได้โต้แย้งคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้นอันเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 แต่เมื่อปรากฎตามสำนวนว่าศาลชั้นต้นมิได้ส่งหมายแจ้งวันนัดชี้สองสถานให้จำเลยทั้งสี่ทราบ ย่อมเป็นกรณีที่มิได้ปฎิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมและเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาเห็นสมควรสั่งให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นเสียที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาย ชินวัฒน์ นิ่มกิ่งรัตน์ จำเลย - นาย บุญ เลิศ ลา ลุน กับพวก

ชื่อองค์คณะ สมปอง เสนเนียม พิมล สมานิตย์ ผล อนุวัตรนิติการ

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th