ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นทหารประจำการลักรถจักรยานในกองพันทหารราบที่ ๓ ไปขอให้ลงโทษ
จำเลยรับสารภาพว่าได้สมคบกับพวกอีก ๒ คน ซึ่งเป็นพลเรือนคนหนึ่งลักทรัพย์รายนี้
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเมื่อโจทก์จำเลยไม่สืบพะยานก็ต้องฟังตามคำรับสารภาพของจำเลยว่ามีพรรคพวกเป็นพลเรือนสมคบอยู่ด้วยศาลทหารไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาตัดสินว่าจำเลยกล่าวอ้างว่ามีพลเรือนร่วมกระทำผิดด้วยไม่มีหลักฐานใดประกอบข้ออ้าง ทั้งโจทก์ได้ส่งคำให้การจำเลยชั้นสอบสวนก็ปรากฎว่าจำเลยคนเดียวเข้าทำการลักทรัพย์ จึงไม่มีเหตุใดที่จะทำให้ศาลทหารไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ที่ศาลทหากลางพิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามกระบวนความนั้นชอบแล้ว พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา







