โจทก์ได้รับโอนเงินกู้จากนายร้อยตำรวจตรีอี้ ต้นเงิน ๒๗๐๐ บาท ดอกเบี้ย ๙๔๕ บาท แล้วโจทก์มาฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเป้นคนล้มละลาย

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาว่า ๑.จำเลยขอสืบได้ว่าเจ้าหนี้เดิมได้ตกลงกับจำเลยคิดดอกเบี้ยร้อยละ ๕ ต่อเดือนเป็นการผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา สัญญากู้จริงเป็นโมฆะ ๒.ขอสืบว่าโจทก์ผู้รับโอนรู้ว่าสัญญารายนี้ผิดกฎหมาย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในสัญญากู้มีข้อความว่าคิดดอกเบี้ยชั่งละ ๑ บาทต่อเดือนฉะนั้นการที่จำเลยขอสืบ จึงเป็นการขอสืบถึงข้อตกลงเช่นนั้นก็เป็นโมฆะฉะเพาะข้อตกลงนั้น การที่จำเลยขอสืบเป็นการขอสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสาร ไม่ใช่สืบหักล้างนิติกรรม เป้นการต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๙๔(ข) เมื่อจำเลยข้อสืบในข้อนนี้ไม่ได้ ฎีกาข้อ ๒ ก็ตกไปจึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา