ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2536 เวลากลางวันจำเลยทั้งสามร่วมกันเล่นการพนันไพ่ผสมสิบ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน โดยจำเลยทั้งสามเป็นผู้เข้าเล่นเหตุเกิดที่ตำบลธานี อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัยมีผู้นำเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 6, 10, 12, 14 ทวิ(2) 15 ริบ ของกลาง และจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย

จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพ และไม่ค้านเรื่องสินบนนำจับ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 12 จำเลยทั้งสามให้การับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ปรับคนละ 400 บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลางกับให้จำเลยทั้งสามจ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของเงินค่าปรับ

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ด้วย

ศาลอุทธรณ์ภาย 2 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามบันทึกการฟ้องคดีอาญาด้วยวาจาของโจทก์ได้ระบุไว้ว่า ก่อนคดีนี้จำเลยที่ 1 ในคดีนี้เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยที่ 2 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 81/2536 ของศาลชั้นต้นเคยถูกศาลพิพากษาปรับ 400 บาท ฐานเล่นการพนันไพ่ผสมสิบพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่รับอนุญาตพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี กลับมากระทำความผิดคดีนี้ฐานเล่นการพนันไพ่ผสมสิบซ้ำอีก ซึ่งความผิดในคดีครั้งหลังนี้ กฎหมายกำหนดอัตราโทษจำคุก หรือปรับ จึงขอให้ศาลวางโทษจำเลยที่ 1 ทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 14 ทวิ(2) ด้วย เห็นว่า บันทึกดังกล่าวของโจทก์เป็นหลักฐานแห่งคำฟ้องด้วยวาจาของโจทก์ด้วยส่วนหนึ่ง เพราะเมื่อศาลชั้นต้นบันทึกคำฟ้อง คำให้การ และคำพิพากษาของศาลก็ได้กล่าวถึงบันทึกของโจทก์ในตอนที่เกี่ยวกับรายชื่อจำเลยและของกลางว่า ปรากฎตามบันทึก ฟ้องด้วยวาจาของโจทก์เมื่อจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพโดย ไม่ได้โต้แย้งประการใดก็ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพตามฟ้องทุกประการรวมทั้งข้อเท็จจริงที่เคยต้องโทษตาม ดังนี้ การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 สถานเดียวจึงไม่ชอบ

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 จำคุก 2 เดือนและปรับ 800 บาท จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือนและปรับ 400 บาท ไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ 1 ได้รับโทษจำคุกมาก่อนจึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th