ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90, 91, 264, 268

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลเฉพาะจำเลยที่ 2 ในข้อหาปลอมเอกสาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรคหนึ่ง ให้ประทับฟ้องจำเลยที่ 2 ไว้พิจารณาในข้อหาดังกล่าว ข้อหาใช้เอกสารปลอมให้ยก ส่วนจำเลยที่ 1 ให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ สำหรับจำเลยที่ 1 ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าคดีไม่มีมูล นั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า "…คำสั่งที่ว่า คดีไม่มีมูลนั้น โจทก์มีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ตามบทบัญญัติว่าด้วยลักษณะอุทธรณ์ฎีกา" และนำมาใช้บังคับในศาลแขวงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 กรณีจึงมีผลให้โจทก์ไม่สามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้ทุกคดีเสมอไป โจทก์ฟ้องคดีนี้ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม และไม่ได้ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268 แต่บรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยที่ 1 ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 268 เมื่อความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมที่โจทก์บรรยายและขอให้ลงโทษนั้นแต่ละฐานความผิดมีระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นที่เป็นศาลแขวง ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 17 ประกอบมาตรา 25 จึงต้องห้ามไม่ให้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่เป็นศาลแขวงในปัญหาข้อเท็จจริง ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ที่โจทก์อุทธรณ์ทำนองว่า พยานหลักฐานของโจทก์มีมูลว่าจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานใช้เอกสารปลอม ขอให้ประทับฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหาดังกล่าวไว้พิจารณา นั้น เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามไม่ให้อุทธรณ์ตามบทบัญญัติดังกล่าว กับไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ทวิ โจทก์จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ และเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 ไม่รับวินิจฉัยและพิพากษายกอุทธรณ์โจทก์เพราะเหตุดังกล่าว โจทก์ก็ไม่ได้ฎีกาโต้แย้งว่าที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ไม่รับวินิจฉัยและพิพากษายกอุทธรณ์โจทก์เพราะเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามไม่ให้อุทธรณ์นั้น ไม่ชอบอย่างไร แต่โจทก์ฎีกาเป็นทำนองเดียวกับอุทธรณ์ว่า พยานหลักฐานของโจทก์มีมูลว่าจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานใช้เอกสารปลอม ขอให้ประทับฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหาดังกล่าวไว้พิจารณาเท่านั้น ฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นการคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 216 วรรคหนึ่ง ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาของโจทก์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.751/2567

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th