ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางบังอร วัลลิสุตมารดาของผู้ร้อง ผู้วายชนม์

พนักงานอัยการ กรมอัยการยื่นคำคัดค้านว่าบุตรสองคนของผู้ตายเป็นผู้มีจิตฟั่นเฟือน ไม่สามารถรับผิดชอบและจัดการงานต่าง ๆ ได้ ขอคัดค้านคำร้องขอของผู้ร้องและขอให้ตั้งนายเต็มและร้อยโทฉลาดเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้อง

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้อง นายเต็ม กับร้อยโทฉลาด เป็นผู้จัดการมรดกของนางบังอร วัลลิสุต

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า มีปัญหาว่า พนักงานอัยการผู้คัดค้านมีอำนาจคัดค้านคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ร้องได้หรือไม่ และมีอำนาจขอให้ตั้งนายเต็ม เธียรประสิทธิ์ กับร้อยโทฉลาด วัลลิสุต ผู้ไม่มีสิทธิรับมรดกเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713(2) นั้น ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการมีอำนาจร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกได้ ในกรณีที่ผู้จัดการมรดกหรือทายาทไม่สามารถหรือไม่เต็มใจที่จะจัดการหรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกหรือในการแบ่งมรดก ปรากฏตามคำร้องขอของผู้ร้องเองว่า มีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก เนื่องจากเจ้าพนักงานที่ดินไม่ยอมจดทะเบียนโอนที่ดินมีโฉนดของนางบังอรวัลลิสุต ฯลฯ ทั้งปรากฏจากคำคัดค้านว่าทายาทสองคนมีจิตฟั่นเฟือนไม่สามารถจัดการมรดกได้ อนึ่งตามกฎหมายผู้จัดการมรดกไม่จำเป็นต้องเป็นทายาทโดยธรรมหรือเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดก จะเป็นบุคคลใดก็ได้ที่มีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามเป็นผู้จัดการมรดก ไม่ปรากฏว่านายเต็ม เธียรประสิทธิ์ กับร้อยโทฉลาด วัลลิสุตเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1718 พนักงานอัยการผู้คัดค้านจึงมีอำนาจขอให้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ได้ฯ เมื่อพนักงานอัยการผู้คัดค้านมีอำนาจร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกรายนี้แล้ว ก็ย่อมมีอำนาจคัดค้านการที่ผู้ร้องขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ตามลำพัง โดยขอให้ตั้งนายเต็ม เธียรประสิทธิ์ กับร้อยโทฉลาด วัลลิสุตเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ร่วมกับผู้ร้องได้ ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา