โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามคืนไม้แปรรูปตามบัญชีรายการไม้แปรรูปท้ายฟ้องจำนวน 215 ชิ้น ปริมาตร414.55 ลูกบาศก์ฟุต ให้แก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา248,700 บาท แทน

จำเลยทั้งสามให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสามคืนไม้แปรรูปตามฟ้องแก่โจทก์ ถ้าไม่สามารถคืนได้ให้ใช้ราคาจำนวน 127,340 บาทแก่โจทก์แทน

จำเลยทั้งสามฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องและอุทธรณ์ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามคืนไม้แปรรูปจำนวน 215 ชิ้น ปริมาตร414.55 ลูกบาศก์ฟุต หากคืนไม่ได้ให้จำเลยทั้งสามใช้ราคาเป็นเงิน248,700 บาท แก่โจทก์ ซึ่งราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์เกินกว่า 200,000 บาทแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยทั้งสามคืนไม้แปรรูปตามฟ้องแก่โจทก์ ถ้าไม่สามารถคืนได้ให้ใช้ราคาเป็นเงิน 128,340 บาทแก่โจทก์แทน ดังนี้ เมื่อจำเลยทั้งสามฎีกา ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาจึงไม่เกิน 200,000 บาทต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 วรรคหนึ่ง ที่แก้ไขใหม่ ซึ่งมีผลบังคับก่อนจำเลยทั้งสามยื่นฎีกา ที่จำเลยทั้งสามฎีกาว่า โจทก์ไม่มีพยานมาสืบว่าจำเลยคนใดเอาไม้แปรรูปของโจทก์ไปและจำเลยคนใดขัดขวางมิให้โจทก์ขนไม้แปรรูปไป นั้น เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ที่วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังได้ว่าโจทก์นำไม้แปรรูปตามฟ้องไปเก็บไว้ที่ยุ้งข้าวของบิดามารดา เมื่อบิดามารดาตายจำเลยทั้งสามไม่ยอมคืนให้แก่โจทก์ จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายกฎีกาของจำเลยทั้งสาม คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นฎีกาทั้งหมดแก่จำเลยทั้งสาม

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา