สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7417/2537

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7417/2537

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1382 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 142, 145 (2)

คำขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลที่สั่งว่าจำเลยได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ พอจะแปลความหมายได้ว่าโจทก์ประสงค์ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าจำเลยขอให้คำสั่งดังกล่าวไม่ผูกพันโจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382ตามที่อ้าง จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์มีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าจำเลยกรณีจึงไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่จะขอให้คำสั่งดังกล่าวไม่ผูกพันโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(2)

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 4391 เดิมเป็นกรรมสิทธิ์ของนางโปรด เมื่อประมาณ 30 กว่าปีมานี้ ก่อนที่นางโปรดจะถึงแก่กรรมได้ยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้โจทก์ แต่มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพียงแต่มอบที่ดินและโฉนดให้เท่านั้น โจทก์ได้ครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ที่ดินดังกล่าวจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยการครอบครองปรปักษ์ ต่อมาจำเลยได้แอบยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวต่อศาล ศาลจังหวัดราชบุรีได้มีคำสั่งว่าที่ดินแปลงดังกล่าวตกเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งศาลจังหวัดราชบุรีตามสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 935/2532 และให้ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 4391 ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยการครอบครอง

จำเลยให้การว่า นางโปรดได้ยกที่ดินพิพาทให้นายคล้อยบิดาจำเลยก่อนที่นางโปรดจะถึงแก่กรรม แต่การยกให้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก่อนนายคล้อยจะถึงแก่กรรมได้ยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้จำเลยครอบครองต่อมาจำเลยจึงเป็นผู้ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนคำสั่งศาลจังหวัดราชบุรี ตามสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 935/2532

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลจังหวัดราชบุรี คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 935/2532 ตามคำขอท้ายฟ้องนั้นพอจะแปลความหมายได้ว่าโจทก์ประสงค์ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าจำเลย ขอให้คำสั่งดังกล่าวไม่ผูกพันโจทก์เห็นว่า เมื่อวินิจฉัยข้างต้นว่า โจทก์ไม่ได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ตามที่อ้าง จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์มีสิทธิในที่พิพาทดีกว่าจำเลย กรณีจึงไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นที่จะขอให้คำสั่งดังกล่าวไม่ผูกพันโจทก์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(2)

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาง เม้า เพ็ญ เพียร จำเลย - นาง บุญ ช่าง ศิลป์

ชื่อองค์คณะ สถิตย์ ไพเราะ พรชัย สมรรถเวช สมคิด ไตรโสรัส

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th