ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงิน 90,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่า โจทก์ประกอบธุรกิจขายตรงเกี่ยวกับเครื่องสำอาง อาหารเสริม ธุรกิจสอนภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศส และทำโครงการดรุณเศรษฐี โครงการเกษียณก่อนเกษียณ จำเลยจ่ายเงินค่าตอบแทนเข้าบัญชีธนาคารให้โจทก์ แล้ววินิจฉัยว่า สมุดเงินฝากของโจทก์ ปรากฏว่าจำเลยโอนเงินเข้าบัญชีโจทก์ครั้งละ 30,000 บาท แต่มิได้โอนเข้าเป็นประจำทุกเดือนและไม่สม่ำเสมอ ซึ่งแตกต่างจากการจ่ายเงินเดือน แสดงว่าไม่ใช่เงินเดือน พยานหลักฐานอื่นของโจทก์ก็ไม่มีน้ำหนักรับฟัง โจทก์ไม่ได้ตกอยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของจำเลยหรือผู้มีอำนาจทำการแทนจำเลย และไม่ปรากฏเวลาเข้าออกงานที่แน่นอนดังเช่นลูกจ้างทั่วไป ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์เป็นลูกจ้างจำเลย จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างจากจำเลย
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์เพียงประการเดียวว่า โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยและมีสิทธิเรียกร้องค่าจ้างจากจำเลยหรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575 และพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 5 ให้ความหมายของสัญญาจ้างไว้ในทำนองเดียวกันว่า สัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าลูกจ้างตกลงจะทำงานให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้ และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 บัญญัติว่า "ถ้าลูกจ้างจงใจขัดคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายก็ดี หรือละเลยไม่นำพาต่อคำสั่งเช่นว่านั้นเป็นอาจิณก็ดี ท่านว่านายจ้างจะไล่ออกโดยมิพักต้องบอกกล่าวล่วงหน้าหรือให้สินไหมทดแทนก็ได้" เมื่อพิเคราะห์บทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวแล้ว ลูกจ้าง คือผู้ซึ่งตกลงทำงานให้แก่นายจ้างเพื่อรับค่าจ้างโดยอยู่ภายใต้อำนาจบังคับบัญชาของนายจ้าง อันหมายความว่า ลูกจ้างต้องทำงานตามที่นายจ้างสั่งและต้องปฏิบัติตามระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้าง หากลูกจ้างฝ่าฝืนนายจ้างสามารถลงโทษได้ คดีนี้ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงว่าเงินที่จำเลยโอนเข้าบัญชีโจทก์ในแต่ละครั้งมีลักษณะแตกต่างจากการจ่ายเงินเดือน แสดงว่าไม่ใช่เงินเดือน และโจทก์ไม่ได้ตกอยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของจำเลยหรือผู้มีอำนาจทำการแทนจำเลย เช่นนี้ โจทก์จึงไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลย ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าจ้างจากจำเลย ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา ร.601/2559
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









