ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลซึ่งถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีคำสั่งยึดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 1 แปลง ซึ่งโจทก์ทั้งสี่เป็นผู้มีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายและได้ยกที่ดินดังกล่าวให้จำเลยไว้ใช้เพื่อทำประโยชน์ในการดำเนินกิจการของจำเลยเกี่ยวกับการตั้งโรงบ่มใบยาและเพาะกล้ายาสูบ เมื่อจำเลยยกเลิกโครงการตั้งโรงบ่มใบยาโจทก์ทั้งสี่มีสิทธิขอคืนที่ดินดังกล่าว ซึ่งโจทก์ทั้งสี่ได้ขอที่ดินที่ยกให้ดังกล่าวคืนจากจำเลยตามส่วนแต่ละคนที่ได้ตกลงสัญญากันไว้ก่อนถูกยึด ขอให้พิพากษาว่าโจทก์ทั้งสี่มีสิทธิครอบครองในที่ดินตามส่วนของโจทก์แต่ละคนที่ตกลงสัญญากันไว้ และให้จำเลยถอนการยึดที่ดินและแบ่งแยกที่ดินให้แก่โจทก์ทั้งสี่ตามส่วนแต่ละคน

จำเลยให้การว่า ที่ดินตามฟ้องไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ทั้งสี่แต่เป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ (จำเลย) ในคดีล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีอำนาจยึดและนำมาขายทอดตลาดแบ่งเฉลี่ยให้แก่เจ้าหนี้ได้ หากโจทก์ทั้งสี่เห็นว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์สินดังกล่าว โจทก์ทั้งสี่ก็ชอบที่จะยื่นคำร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ถ้าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึด โจทก์ทั้งสี่จึงจะมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลได้ภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 158 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 การที่โจทก์ทั้งสี่ได้ยื่นฟ้องเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ต่อศาลชั้นต้นเลยทีเดียวเช่นนี้จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาข้ามขั้นตอนของกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสี่อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

โจทก์ทั้งสี่ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สภาพแห่งข้อหาของโจทก์ทั้งสี่พออนุมานได้ว่า โจทก์ทั้งสี่ฟ้องขอให้บังคับให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของกลุ่มเกษตรกรทำนาเหล่ายาว ผู้ล้มละลาย ถอนการยึดที่ดินที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดไว้ในคดีล้มละลายดังกล่าวบางส่วนโดยอ้างว่าที่ดินส่วนที่ขอให้ถอนการยึดดังกล่าวเป็นของโจทก์ทั้งสี่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีสิทธิยึดไว้ในคดีล้มละลาย เห็นว่าตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 158 บัญญัติว่า "ผู้มีส่วนได้เสียคนใดเห็นว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใด ให้คัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รับคำคัดค้านแล้วให้สอบสวนและมีคำสั่ง ถ้าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึด ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลภายในกำหนดเวลาสิบสี่วัน นับแต่วันได้ทราบคำสั่งนั้น เมื่อศาลได้รับคำร้องขอไว้แล้วให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งชี้ขาดเหมือนอย่างคดีธรรมดา โดยเรียกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาสู้คดี" จากบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ผู้มีส่วนได้เสียใดจะคัดค้านการยึดทรัพย์ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องยื่นคำคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อมีคำสั่งก่อน ถ้าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึดจึงจะมีสิทธิร้องขอต่อศาลได้ คดีนี้โจทก์ทั้งสี่เสนอคดีต่อศาลคัดค้านการยึดที่ดินพิพาทของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ทั้งสี่ได้มีการยื่นคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพื่อให้มีคำสั่งตามขั้นตอนที่กฎหมายลำดับไว้ก่อนไม่ชอบที่ศาลจะรับไว้พิจารณาพิพากษา ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสี่ชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th