ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาท จำเลยทั้งสองได้เข้ามาอาศัยปลูกบ้านหลังหนึ่งในที่ดินดังกล่าวของโจทก์บางส่วนโดยตกลงว่าจะขออยู่อาศัยเพียง 2-3 ปี ต่อมา กำหนดเวลาดังกล่าวล่วงเลยมานานแล้ว โจทก์บอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไป แต่จำเลยเพิกเฉย ทำให้โจทก์เสียหาย ที่ดินพิพาทหากโจทก์ให้ผู้อื่นเช่าจะได้ค่าเช่าอย่างต่ำเดือนละ 200 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายออกจากที่ดินของโจทก์ ห้ามเกี่ยวข้องอีกต่อไปกับให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 200 บาท นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะออกจากที่ดินของโจทก์

จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ตกลงขายที่ดินพิพาทให้จำเลยที่ 1ในราคา 20,000 บาท จำเลยที่ 1 ชำระเงินให้โจทก์แล้ว 14,000 บาทส่วนที่เหลือตกลงจะชำระเมื่อโจทก์โอนกรรมสิทธิ์ จำเลยปลูกบ้านในที่ดินพิพาทโดยความยินยอมของโจทก์ ต่อมาโจทก์แจ้งจะขอเงินเพิ่มจากส่วนที่ยังค้างชำระเป็น 24,000 บาท และให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการรังวัดแบ่งแยกที่ดิน เมื่อจำเลยที่ 1ไม่ยินยอม โจทก์จึงนำคดีมาฟ้อง จำเลยทั้งสองไม่ได้ขออาศัยโจทก์อยู่ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องและคำให้การแล้ว คดีมีประเด็นพิพาทว่า

(1) โจทก์ให้จำเลยทั้งสองปลูกบ้านอาศัยในที่ดินพิพาทนี้หรือโจทก์ตกลงขายที่พิพาทให้แก่จำเลยโดยชำระราคาบางส่วนแล้วจริงหรือไม่

(2) โจทก์เสียหายหรือไม่

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขาย เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาอีกข้อหนึ่งว่า ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยซื้อที่ดินพิพาทจากโจทก์หรือไม่ แต่จำเลยกลับนำสืบว่ามีการตกลงจะซื้อขายมีการชำระหนี้บางส่วน และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเป็นสัญญาจะซื้อจะขายอันเป็นการนำสืบต่อสู้และวินิจฉัยนอกประเด็นนั้น เห็นว่าคดีนี้จำเลยให้การต่อสู้ไว้โดยชัดแจ้งว่าโจทก์ตกลงขายดินพิพาทให้จำเลยที่ 1 ในราคา 20,000 บาท จำเลยที่ 1ได้ชำระเงินงวดแรกให้โจทก์ 14,000 บาท ส่วนที่เหลือตกลงจะชำระให้เมื่อโจทก์โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้จำเลยที่ 1 ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้องคำให้การแล้วกำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่าโจทก์ตกลงขายที่พิพาทให้แก่จำเลยโดยชำระราคาบางส่วนแล้วจริงหรือไม่จึงเป็นการกำหนดประเด็นอย่างกว้าง ๆ ตามคำให้การของจำเลยซึ่งย่อมรวมถึงการซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์ จำเลยที่ 1 ที่ชำระราคาบางส่วนและที่เหลือเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ อันเป็นลักษณะของสัญญาจะซื้อจะขายนั่นเอง การที่จำเลยทั้งสองนำสืบตามคำให้การและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองอยู่ในที่พิพาทโดยสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขายจึงหาเป็นการนำสืบและวินิจฉัยนอกประเด็นไม่

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th