ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ , ๓๙๑ , ๘๓ ริบของกลาง

จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ , ๘๓ จำคุกคนละ ๒ เดือน จำเลยที่ ๓ และที่ ๔ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๑ , ๘๓ ปรับคนละ ๑,๐๐๐ บาท จำเลยทั้งสี่ให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ คงจำคุกคนละ ๑ เดือน จำเลยที่ ๓ และที่ ๔ คงปรับคนละ ๕๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ , ๓๐ ริบของกลาง

จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ พิพากษายืน

จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองในปัญหาข้อกฎหมายตามที่ศาลชั้นต้นรับขึ้นมาว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ฎีกาว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘๖ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ฐานทำร้ายจำเลยที่ ๓ และที่ ๔ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายของจำเลยที่ ๓ และที่ ๔ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ ซึ่งความผิดตามมาตรานี้กฎหมายบัญญัติให้ลงโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแขวงซึ่งผู้พิพากษานายเดียวมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้ตามมาตรา ๑๕ ประกอบมาตรา ๒๒ (๕) แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรมที่ใช้บังคับในขณะนั้น และในกรณีที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามข้อหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งในชั้นสอบสวน พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. ๒๔๙๙ ได้บัญญัติถึงวิธีการที่พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการและศาลต้องปฏิบัติไว้ในมาตรา ๒๐ ว่า "? ให้พนักงานสอบสวนนำผู้ต้องหามายังพนักงานอัยการเพื่อฟ้องศาลโดยมิต้องทำการสอบสวน และให้ฟ้องด้วยวาจา ให้ศาลถามผู้ต้องหาว่าจะให้การประการใด และถ้าผู้ต้องหายังให้การรับสารภาพ ให้ศาลบันทึกคำฟ้อง คำรับสารภาพ และทำคำพิพากษาในบันทึกฉบับเดียวกัน แล้วให้โจทก์จำเลยลงชื่อไว้ในบันทึกนั้น?" จึงเป็นกรณีที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. ๒๔๙๙ ได้บัญญัติวิธีดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาคดีของศาลแขวงไว้โดยเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนำบทบัญญัติเกี่ยวกับการทำคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘๖ มาใช้บังคับในกรณีนี้ได้ตามที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ฎีกา เมื่อจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ยังให้การรับสารภาพในชั้นศาล การที่ศาลชั้นต้นบันทึกคำฟ้อง คำรับสารภาพ และคำพิพากษาในบันทึกฉบับเดียวกัน และอ่านให้คู่ความฟังในวันเดียวกันซึ่งจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ รวมทั้งโจทก์ จำเลยที่ ๓ และที่ ๔ ก็ลงชื่อทราบไว้แล้วโดยไม่มีฝ่ายใดโต้แย้งว่าศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ เข้าใจข้อหาตามฟ้องแล้วจึงรับสารภาพ คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว?

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th