ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นบุตรนายละออง ประเสริฐดี นายละอองถึงความตายเมื่อปี 2525ระหว่างมีชีวิตอยู่ นางละอองมีที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 939 พร้อมบ้านที่ปลูกอยู่บนที่ดิน นายละอองได้ยกที่ดินพร้อมบ้านเลขที่ดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง นับแต่นายละอองยกที่ดินพร้อมบ้านเลขที่ดังกล่าวให้แก่ผู้ร้องผู้ร้องเข้าครอบครองยึดถือที่ดินเพื่อตนเองตลอดมา โดยปลูกมันต้นยูคาลิปตัส และอื่น ๆ เพื่อยังชีพ ไม่มีผู้ใดเข้าเกี่ยวข้องหรือคัดค้าน ทั้งหลังจากนายละอองถึงแก่ความตายผู้ร้องเข้าพักอาศัยในบ้านเลขที่ 112 ในฐานะเจ้าบ้านอีกด้วย ผู้ร้องจึงได้สิทธิครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367และเป็นผู้มีสิทธิในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน ต่อมาเมื่อกลางปี 2538 เจ้าพนักงานที่ดินรังวัดแนวเขตเพื่อออกโฉนดที่ดินแต่ที่ดินของผู้ร้องยังเป็นชื่อนายละอองอยู่ เจ้าพนักงานที่ดินแจ้งว่าจะต้องออกโฉนดที่ดินในนามของผู้มีชื่อเดิมไม่อาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อให้เป็นของผู้ร้องได้ให้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อแสดงว่าผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิในที่ดินก่อน จึงจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อในโฉนดที่ดินที่จะออกให้ได้ให้มีคำสั่งว่า ผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1367 และเป็นผู้มีสิทธิในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์และให้แจ้งคำสั่งไปยังเจ้าพนักงานที่ดิน

ศาลชั้นต้นตรวจคำร้องขอแล้วมีคำสั่งว่า กรณีตามคำร้องขอไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ผู้ร้องใช้สิทธิทางศาลได้ ให้ยกคำร้องขอ

ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ที่ผู้ร้องอ้างเหตุมาในคำร้องว่าผู้ร้องมีสิทธิครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1367 และเป็นผู้มีสิทธิในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินแต่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ยังเป็นชื่อนายละออง ประเสริฐดี เจ้าพนักงานที่ดินไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชื่อในทะเบียนให้เป็นชื่อผู้ร้องในโฉนดที่ดินที่จะออกให้ได้นั้นเห็นว่า กรณีที่บุคคลใดจะต้องใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ต้องเป็นกรณีจำเป็นจะต้องมาร้องขอต่อศาลเพื่อให้ได้รับความรับรองหรือคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่ โดยจะต้องมีกฎหมายระบุไว้แจ้งชัดให้กระทำได้แต่บทกฎหมายที่ผู้ร้องอ้างมานั้น หาได้ให้สิทธิแก่ผู้ร้องใช้สิทธิทางศาลโดยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแต่ฝ่ายเดียวได้หากผู้ร้องเห็นว่าผู้ร้องมีสิทธิครอบครองในที่ดินและถูกโต้แย้งสิทธิประการใด ก็ชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลโดยทำเป็นคำฟ้องอันเป็นคดีมีข้อพิพาท หาใช่เสนอคดีโดยทำเป็นคำร้องขออันเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทไม่ ที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องขอของผู้ร้องศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ผู้ร้องฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th