ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า เดิมจำเลยได้ฟ้องโจทก์ทั้งสองให้ชำระหนี้เงินกู้และบังคับจำนอง ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยโจทก์ทั้งสองยอมชำระเงิน 245,000 บาท ให้แก่จำเลยในคดีนี้ภายในกำหนด 2 เดือน นับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ หากโจทก์ทั้งสองผิดนัดหรือไม่สามารถชำระหนี้ โจทก์ทั้งสองยอมไปจดทะเบียนโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 1494 ให้แก่จำเลยหากไม่ไป ยอมให้ถือเอาคำพิพากษาตามยอมแทนการแสดงเจตนาของโจทก์ทั้งสอง ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม โจทก์ทั้งสองได้ขอปฏิบัติการชำระหนี้แก่จำเลยจำเลยหลีกเลี่ยงไม่ยอมให้พบ เนื่องจากจำเลยมีเจตนาที่จะอ้างว่าโจทก์ทั้งสองผิดนัดเพื่อให้โจทก์ทั้งสองโอนที่ดินให้แก่จำเลย สัญญาประนีประนอมยอมความที่มีข้อตกลงว่า หากโจทก์ทั้งสองผิดนัดโจทก์ทั้งสองยอมไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่จำเลยเพื่อเป็นการชำระหนี้นั้น ข้อตกลงในส่วนนี้ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 711 และขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เพราะที่ดินมีราคาสูงกว่าจำนวนหนี้อย่างมาก ข้อตกลงในส่วนนี้จึงเป็นโมฆะ ขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความในส่วนที่บังคับให้โจทก์ ทั้งสองต้องโอนที่ดินให้แก่จำเลย และให้จำเลยรับชำระเงินที่โจทก์ทั้งสองค้างชำระ245,000 บาท พร้อมทั้งจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าว หากจำเลยไม่ไปไถ่ถอนจำนองขอให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ทั้งสองชอบที่จะว่ากล่าวกับจำเลยในคดีเดิม ไม่ปรากฏว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์ทั้งสองประการใดขึ้นใหม่ จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน

โจทก์ทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลได้มีคำพิพากษาตามยอมนั้นเป็นการบังคับให้คู่กรณีปฏิบัติตามสัญญาที่คู่กรณีตกลงกันต่อหน้าศาลข้อตกลงกันในส่วนที่จะบังคับชำระหนี้ด้วยวิธีการให้โจทก์ทั้งสองโอนที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 1494 ทั้งแปลงให้แก่จำเลยนั้นเป็นข้อตกลงที่ไม่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นเรื่องเกี่ยวกับการชำระหนี้เงินกู้และคู่กรณีอาจจะไปจดทะเบียนโอนที่ดินได้ตามที่ยอมความกัน สัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำกันมีผลทำให้หนี้เดิมระงับไปเกิดหนี้ใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งศาลชั้นต้นก็ได้พิพากษาให้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ หากโจทก์ทั้งสองเห็นว่าไม่ถูกต้องก็อาจจะอุทธรณ์คำพิพากษาตามยอมดังกล่าวได้หากเข้ากรณีตามมาตรา 138แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อโจทก์ทั้งสองไม่อุทธรณ์แล้ว และคดีถึงที่สุดไปแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะฟ้องร้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความได้ ข้อที่โจทก์ทั้งสองอ้างตามฎีกาได้ปฏิบัติการชำระหนี้เงิน 245,000 บาท แก่จำเลยแล้วนั้น เป็นการอ้างว่าได้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งมีผลต่อการบังคับคดีที่จะต้องไปว่ากล่าวกันในคดีเดิม โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th