สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7685/2555

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7685/2555

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1307 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 249 วรรคหนึ่ง พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 ม. 25

ผู้ร้องร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดโดยอ้างว่าเป็นของผู้ร้อง เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของต้นยางพาราที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดมาบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ การที่ผู้ร้องฎีกาว่า ต้นยางพาราพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จึงต้องถูกห้ามยึดตาม ป.พ.พ. มาตรา 1307 ประกอบ พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 มาตรา 25 จึงเป็นฎีกานอกคำร้องและนอกประเด็น ทั้งไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตาม ป.วิ.พ มาตรา 249 วรรคหนึ่ง

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ จำเลยไม่ยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าว โจทก์ขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดต้นยางพาราประมาณ 800 ต้น อยู่ในที่ดินที่มีหลักฐานสำหรับที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แปลงเลขที่ 4 ระวาง ส.ป.ก. ที่/กลุ่มที่ 1021 เลขที่ 3165 ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด โดยอ้างว่าเป็นของจำเลย

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด

โจทก์ให้การขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง (ที่ถูก ยกคำร้อง)

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติโดยคู่ความไม่ฎีกาโต้แย้งว่า ผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของต้นยางพาราที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดมาบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาแก่โจทก์ อันเป็นประเด็นพิพาทแห่งคดี ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ยกคำร้องและศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ผู้ร้องยื่นฎีกาโดยมิได้โต้แย้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในประเด็นดังกล่าว ส่วนที่ผู้ร้องฎีกาว่าต้นยางพาราพิพาทที่ถูกยึดเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจึงต้องถูกห้ามยึดตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1307 ประกอบมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 นั้น เป็นกรณีนอกคำร้องและนอกประเด็น ฎีกาของผู้ร้องจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้

พิพากษาให้ยกฎีกา ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาแก่ผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกานอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พ.3109/2552

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางอุษณีย์ งามเกษ ผู้ร้อง - นายบุญรอด ช่างทอง จำเลย - นางนภา บวรชาติหรือสุวรรณทัต

ชื่อองค์คณะ ชัยวุฒิ โลหชิตรานนท์ สมชาย พันธุมะโอภาส ชัชวาล บุนนาค

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลจังหวัดตราด - นายมนตรี นักเป่า ศาลอุทธรณ์ภาค 2 - นายจรัญ เนาวพนานนท์

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th