ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


(คดีนี้โจทก์ตั้งทุนทรัพย์ ๒๒๗๕ บาท)
ได้ความว่าโจทก์จำเลยต่างมีสินเดิมมาอยู่กินเปนผัวเมียกันตามกฎหมายและเกิดบุตร์ด้วยกัน ต่อมาจำเลยได้รับมฤดกจากบิดา ๔๕๕๐ บาท ภายหลังจำเลยมาได้ ข.เปนภรรยาและไปอยู่กินกับ ข. แต่จำเลยยังไปมาหาสู่ส่งเสียโจทก์เสมอ บัดนี้โจทก์ขออย่างขาดจากจำเลย โดยอ้างว่าจำเลยเลี้ยงดูโจทก์ไม่เปนธรรม และเก็บเอาทรัพย์ลงเรือนทิ้งโจทก์ไป กับขอแบ่งสินสมรสกึ่งหนึ่งเปนเงิน ๒๒๗๕ บาท
ศาลล่างทั้ง ๒ ว่าตามพฤติการณ์ที่จำเลยแสดงต่อโจทก์ดังนี้ กฎหมายถือว่าโจทก์จำเลยยังเปนผัวเมียกัน และโจทก์มิใช่ภรรยาร้าง การที่จำเลยมีเมียน้อยยังไม่พอถือว่าเลี้ยงเมียไม่เปนธรรม แต่โจทก์จำเลยต่างไม่สมัคจะอยู่กินเปนผัวเมียกันต่อไปจึงให้อย่าขาดจากผัวเมียกัน และให้แบ่งสินสมรสให้จำเลย ๑ ใน ๓ เงิน ๑๒๙๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีการับวินิจฉัยโดยถือเอาทุนทรัพย์ที่โจทก์ตั้งเปนเกณฑ์ แล้วตัดสินยืนตามศาลเดิม
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









