ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งยี่สิบแปดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2474 มาตรา 4, 5, 10, 12, 15ริบของกลางและจ่ายเงินสินบนนำจับตามกฎหมาย

จำเลยทั้งยี่สิบแปดให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งยี่สิบแปดมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 10, 12, 15เรียงกระทงลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91ฐานเป็นเจ้าสำนัก ปรับ 2,000 บาท ฐานเป็นผู้ร่วมเล่นการพนันปรับ 1,600 บาท รวมปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 3,600 บาทจำเลยที่ 2 ถึงที่ 28 ปรับคนละ 1,600 บาท จำเลยทั้งยี่สิบแปดให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละหนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับจำเลยที่ 1 จำนวน2,700 บาท จำเลยที่ 2 ถึงที่ 28 คนละ 1,200 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลางให้จำเลยทั้งหมดจ่ายสินบนนำจับคนละกึ่งหนึ่งของค่าปรับ

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้ไม่ริบเครื่องรับโทรทัศน์สีของกลาง

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนเครื่องรับโทรทัศน์สีของกลางแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ที่โจทก์ฎีกาว่าการเล่นการพนันต้องอาศัยการแพร่ภาพการแข่งขันชกมวยจากเครื่องรับโทรทัศน์สีของกลาง เครื่องรับโทรทัศน์สีของกลางจึงเป็นสื่อหรือบ่อเกิดแห่งการเล่นการพนันชกมวย เป็นทรัพย์สินหรือเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นการพนัน และเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพจึงฟังได้ตามฟ้องนั้น เห็นว่า เครื่องรับโทรทัศน์สีของกลางเป็นแต่เพียงเครื่องมือและอุปกรณ์รับภาพการแข่งขันชกมวยจากสถานีโทรทัศน์ซึ่งเป็นผู้ส่งภาพดังกล่าวมาเท่านั้น การที่จำเลยกับพวกซึ่งเป็นผู้ชมท้าพนันผลการแข่งขันชกมวย หาทำให้เครื่องรับโทรทัศน์สีของกลางเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการเล่นการพนันชกมวยตามความหมายแพ่งพระราชบัญญัติการพนันโดยแท้จริงไม่ และแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพกรณีของกลางตามฟ้อง แต่เมื่อปรากฏว่าตามสภาพของเครื่องรับโทรทัศน์ของกลางดังที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องนั้น มิใช่เครื่องมือเครื่องใช้ในการเล่นการพนันชกมวยแล้ว เครื่องรับโทรทัศน์สีของกลางจึงไม่ใช่เป็นทรัพย์สินอันจะพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้คืนเครื่องรับโทรทัศน์สีของกลางแก่เจ้าของชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th