ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีทั้งสองสำนวนศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกัน โดยให้เรียกจำเลยในสำนวนแรกว่า จำเลยที่ ๑ จำเลยในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ ๒

โจทก์ฟ้องทั้งสองสำนวน ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๙๑, ๓๔๑ พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๓๐, ๘๒ ให้จำเลยทั้งสองคืนเงิน ๒๓๐,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย และ นับโทษจำเลยที่ ๒ ต่อจากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ๑๑๕๘/๒๕๓๘, ๑๑๕๙/๒๕๓๘, ๑๑๖๒/๒๕๓๘, ๑๑๖๓/๒๕๓๘, ๑๑๖๔/๒๕๓๘, ๑๑๖๕/๒๕๓๘, ๑๑๖๖/๒๕๓๘ ของศาลชั้นต้น

จำเลยที่ ๑ ไม่ได้ให้การ ถือว่าจำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคล เดียวกันกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครอง คนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๓๐ (ที่ถูกมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง), ๘๒ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑, ๘๓ การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ฐาน จัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ ๓ ปี ฐานฉ้อโกง จำคุกคนละ ๑ ปี รวมจำคุกคนละ ๔ ปี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงิน ๒๓๐,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย ส่วนคำขอที่ให้นับโทษจำเลยทั้งสอง (ที่ถูกจำเลยที่ ๒) ต่อจากโทษในคดีอื่นของศาลชั้นต้น เนื่องจากคดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างพิจารณา จึงให้ยกคำขอ ส่วนนี้

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค ๒ ผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์ในข้อหาฉ้อโกง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์เฉพาะในข้อหาดังกล่าวย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙ (๒) จำหน่ายคดีเฉพาะข้อหาดังกล่าวทั้งสองสำนวน

ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งสองสำนวน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ โดยเรียกและรับค่าบริการจากคนหางานเป็นเงินตอบแทนโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดฐานจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดคนละกรรมกับความผิดฐานฉ้อโกง โจทก์แยกบรรยายฟ้องไว้คนละข้อและเวลาเกิดเหตุมิใช่เวลาเดียวกันทั้งหมด องค์ประกอบ ความผิดทั้งสองฐานแตกต่างกัน การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตเนื่องจากการกระทำของจำเลยทั้งสองครบองค์ประกอบความผิดฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว จำเลยทั้งสองจึงต้องมี ความผิดฐานดังกล่าวนั้น เห็นว่า แม้โจทก์บรรยายฟ้องแยกฐานความผิดฐานทั้งสองไว้คนละข้อก็ตาม แต่ถ้าอ่านคำฟ้องโจทก์โดยตลอดแล้วย่อมเข้าใจได้ว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดในคราวเดียวกันโดยหลอกลวงผู้เสียหายว่าจำเลยทั้งสอง กับพวกสามารถจัดส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ประเทศสมาพันธรัฐสวิสได้ เมื่อฟ้องโจทก์ ยืนยันข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความเท็จว่าจำเลยทั้งสองกับพวกสามารถจัดส่งผู้เสียหายไปทำงานที่ ประเทศสมาพันธรัฐสวิส เท่ากับโจทก์ยืนยันว่าจำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาจัดหางานในต่างประเทศให้แก่ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยทั้งสองตามฟ้องจึงไม่เป็นความผิดฐานจัดหางานโดยมิได้อนุญาตตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๓๐, ๘๒ ศาลอุทธรณ์ภาค ๒ พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th