คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 798/2522
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 1312
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1312 คำว่า'ค่าใช้ที่ดิน' แตกต่างกับคำว่า 'ราคาที่ดิน' การกำหนดค่าใช้ที่ดินจะอาศัยราคาที่ดินเป็นประมาณมิได้เพราะมิใช่เป็นกรณีซื้อขายที่ดินกัน หากแต่จะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
จำเลยปลูกตึกแถวสูง 5-6 ชั้นลงในที่ดินจำเลย แม้รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์เพียง 3/10 ตารางวา แต่เป็นอาคารที่มีความมั่นคงถาวรมากและตั้งอยู่ในย่านการค้าศาลกำหนดค่าใช้ที่ดินให้ 100,000 บาท
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินมีโฉนดคนละแปลงซึ่งมีเขตติดต่อกัน จำเลยได้ให้นายเกียรติสร้างอาคารตึกแถว 5-6 ชั้นในที่ดินของจำเลยและได้รุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ จึงมีคดีพิพาทกับโจทก์ ซึ่งศาลฎีกาได้พิพากษาแล้วว่าอาคารของจำเลยรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ 3/10 ตารางวา แต่ไม่พอฟังว่าจำเลยกับพวกไม่สุจริต ระหว่างพิจารณาคดีดังกล่าว จำเลยยอมให้เงินโจทก์เป็นค่าใช้ที่ดิน 100,000 บาท แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ที่ดินของโจทก์จำเลยอยู่ในย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองลพบุรี การกระทำของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถก่อสร้างอาคารพาณิชย์ได้เป็นเวลา 5 ปี โจทก์คิดค่าขาดประโยชน์ 5 ปี ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นค่าใช้ที่ดินและค่าขาดประโยชน์รายการละ 150,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่จะไปถอนฟ้อง จำเลยจึงบอกเลิกสัญญากับโจทก์ โจทก์เรียกค่าใช้ที่ดินและค่าเสียหายเกินความจริง ฟ้องเคลือบคลุมคดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเสียเงินเป็นค่าใช้ที่ดินแก่โจทก์ 137,500 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย
โจทก์ จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำเลยชำระค่าใช้ที่ดินแก่โจทก์ 100,000 บาท
โจทก์ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ก่อสร้างอาคารรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ 3/10 ตารางวา โดยไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาไม่สุจริต แล้ววินิจฉัยว่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1312 ค่าเสียหายที่โจทก์จะพึงได้ในกรณีเช่นนี้ก็คือค่าใช้ที่ดิน คำว่า "ค่าใช้ที่ดิน" แตกต่างกับคำว่า "ราคาที่ดิน" การกำหนดให้จำเลยเสียเงินให้แก่โจทก์เป็นค่าใช้ที่ดินจึงจะอาศัยราคาที่ดินเป็นประมาณมิได้ เพราะมิใช่เป็นกรณีซื้อขายที่ดินกัน หากแต่จะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เช่นสภาพและทำเลของที่ดิน การขาดประโยชน์จากการใช้สอยที่ดินของโจทก์มีมากน้อยเพียงใด ประโยชน์ที่จำเลยได้รับจากการใช้ที่ดินของโจทก์มีมากน้อยเพียงใด และอาคารที่จำเลยปลูกรุกล้ำมีความมั่นคงถาวรเพียงใด จำเลยปลูกตึกแถวสูง 5-6 ชั้นลงในที่ดินของจำเลย แต่บางส่วนของอาคารรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์แม้จะมีเนื้อที่เพียง 3/10 ตารางวา แต่อาคารดังกล่าวมีความมั่นคงถาวรเป็นอย่างมากและปลูกสร้างลงในย่ายการค้าภายในเขตเทศบาล ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดค่าใช้ที่ดินให้จำเลยชำระแก่โจทก์ 100,000 บาทจึงพอสมควรแล้ว
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายทวี เศรษฐจินดา จำเลย - นายแสวง กลัดพันธ์
ชื่อองค์คณะ ชุบ วีระเวคิน สมชัย ทรัพยวณิช แต่ง ทองภักดี
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan