ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 6, 13 ทวิ,62, 89, 106, 106 ทวิ, 116 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32,83, 92 ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุขและเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ตามกฎหมาย

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่จำเลยที่ 1 รับข้อเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง,62 วรรคหนึ่ง, 89, 106 ทวิ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 13 ทวิวรรคหนึ่ง, 89 เพียงบทเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90จำคุก 20 ปี คำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 1 ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 13 ปี4 เดือน คำขอเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ให้ยก และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางให้แก่กระทรวงสาธารณสุข

โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "…พิเคราะห์แล้วที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1ขายเมทแอมเฟตามีนของกลางให้แก่สายลับ แต่ข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบคงได้ความเพียงว่า เมื่อจำเลยที่ 1 ดูเงินล่อซื้อที่นายประยูรแล้ว จำเลยที่ 1 เดินไปหยิบเมทแอมเฟตามีนของกลางจะมาส่งมอบให้แก่นายประยูร เจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุมจำเลยที่ 1 พร้อมเมทแอมเฟตามีนของกลางที่ยังไม่ได้ส่งมอบให้แก่นายประยูร ยังอยู่ในขั้นตอนที่จำเลยที่ 1 พยายามขายเมทแอมเฟตามีนของกลาง และศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 อันเป็นการปรับบทลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานพยายามขายเมทแอมเฟตามีนของกลางรวมกับความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อขายด้วยนั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4 ได้ให้คำนิยามของคำว่า "ขาย" ให้หมายความรวมถึง จำหน่าย จ่าย แจกแลกเปลี่ยน ส่งมอบ หรือมีไว้เพื่อขาย ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 1 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อขายและพยายามขายเมทแอมเฟตามีนของกลางในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกันการกระทำของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวจึงเป็นความผิดกรรมเดียวฐานขายเมทแอมเฟตามีนตามคำนิยามของบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวแล้วเท่านั้น เพราะการมีไว้เพื่อขายก็เป็นการขายแล้วมิใช่มีความผิดฐานพยายามขายเมทแอมเฟตามีนของกลางอีกด้วยปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสองประกอบด้วยมาตรา 225"

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 62 วรรคหนึ่ง, 89, 106 ทวิ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ซึ่งแต่ละบทมีระวางโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานขายเมทแอมเฟตามีนตามมาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 89 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th