โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คของธนาคารนครหลวงไทยจำกัด สาขานครราชสีมา เลขที่เช็ค 0046295 ลงวันที่ 25 มิถุนายน2535 จำนวนเงิน 178,500 บาท สั่งจ่ายโดยจำเลย ต่อมาวันที่22 มิถุนายน 2535 โจทก์นำเช็คฉบับดังกล่าวไปเข้าบัญชีโจทก์ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสุดบรรทัด เพื่อให้ธนาคารเรียกเก็บเงิน ระหว่างเวลาที่ธนาคารดำเนินการเรียกเก็บเงินเช็คฉบับดังกล่าวได้สูญหายไปในเขตท้องที่อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรีเป็นเหตุให้โจทก์ยังไม่ได้รับเงินตามเช็ค โจทก์ได้ติดต่อทวงถามเพื่อให้จำเลยออกเช็คฉบับใหม่แทนฉบับเดิมที่สูญหาย แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยออกเช็คฉบับใหม่แทนเช็คฉบับเดิมที่สูญหาย

ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ได้บรรยายมาในคำฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คของธนาคารนครหลวงไทย จำกัด สาขานครราชสีมาเลขที่ 0046295 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2535 จำนวนเงิน 178,500 บาทโดยมีจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายก่อนเช็คถึงกำหนดโจทก์ได้นำไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสุดบรรทุด เพื่อให้เรียกเก็บเงินตามเช็ค ปรากฏว่าเช็คดังกล่าวสูญหายไประหว่างธนาคารดำเนินการเรียกเก็บเงิน โจทก์ได้ติดต่อให้จำเลยออกเช็คฉบับใหม่ให้แล้วแต่จำเลยเพิกเฉย ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่โจทก์ฟ้องย่อมเป็นกรณีที่เช็คหายไปก่อนเวลาล่วงเลยกำหนดใช้เงินโจทก์ผู้ทรงเช็คอาจร้องขอไปยังจำเลยผู้สั่งจ่ายให้ออกเช็คเป็นเนื้อความเดียวกันแก่ตนใหม่อีกฉบับหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1011 ดังนั้นโจทก์ชอบที่จะฟ้องร้องเรียกร้องให้จำเลยออกเช็คฉบับใหม่ให้ได้

พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาและดำเนินการต่อไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา