ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษารวมกัน โดยเรียกโจทก์ทั้งสองสำนวนว่าโจทก์ และเรียกจำเลยในสำนวนแรกว่า จำเลยที่ 1 เรียกจำเลยในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 2

โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองสำนวนขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

ระหว่างพิจารณา นายโสพณ ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ทั้งสองสำนวน ศาลชั้นต้นอนุญาต

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม

โจทก์ร่วมฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ร่วมว่า ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 วินิจฉัยว่า คดีของโจทก์ร่วมต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง เนื่องจากโจทก์ร่วมไม่ได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ทวิ โดยต้องให้ผู้พิพากษาคนใดซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลแขวงอนุญาตให้อุทธรณ์ โจทก์ร่วมไม่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว และให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า คดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 จะเกิดสิทธิให้คู่ความสามารถยื่นอุทธรณ์กรณีมีการขออนุญาตหรือได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์จากผู้พิพากษาที่พิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามมาตรา 22 ทวิ นั้น ในการขออนุญาตอุทธรณ์คู่ความผู้ขอต้องยื่นคำร้องถึงผู้พิพากษานั้นพร้อมกับคำฟ้องอุทธรณ์ต่อศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสาม ซึ่งนำมาใช้บังคับโดยอนุโลม ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 และผู้พิพากษาที่มีอำนาจได้สั่งคำร้องอนุญาตให้คู่ความนั้นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ หรือกรณีที่มิได้มีการยื่นคำร้องขออนุญาตต่อผู้พิพากษาดังกล่าวโดยตรง แต่ผู้พิพากษาผู้มีอำนาจมีคำสั่งขณะตรวจรับอุทธรณ์ว่า ข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลอุทธรณ์และอนุญาตให้คู่ความฝ่ายนั้นอุทธรณ์ จึงจะเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่คดีนี้ผู้พิพากษาที่พิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นมีคำสั่งในอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมเพียงว่า โจทก์ร่วมยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนดระยะเวลาที่ศาลอนุญาตให้ขยายรับอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม สำเนาให้จำเลยทั้งสองแก้ภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับสำเนา ไม่ได้มีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ร่วมอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมจึงเป็นการกระทำโดยผิดหลง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 วินิจฉัยว่า การที่ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมเป็นการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมและพิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ร่วมนั้น จึงชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น

อนึ่ง ที่โจทก์ร่วมยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาขออนุญาตฎีกา เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีอาญาทั่วไป การฎีกาจึงอยู่ภายใต้บทบัญญัติว่าด้วยฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 มิใช่เป็นคดีที่มีบทบัญญัติให้การฎีกากระทำได้เมื่อได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา จึงให้ยกคำร้องขออนุญาตฎีกา

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.1749-1750/2567

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th