สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8125/2541

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8125/2541

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 15, 200, 216 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 70, 174

ในคดีอาญา ศาลชั้นต้นต้องมีหน้าที่ส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยโดยตรงจะให้โจทก์เป็นผู้นำส่งหาชอบไม่ ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 200 ประกอบมาตรา216 และจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 70 วรรคสองประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 มาใช้บังคับให้โจทก์เป็นผู้นำส่งสำเนาฎีกาหาได้ไม่เพราะได้มีบทบัญญัติเรื่องการส่งสำเนาฎีกาไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาโดยชัดแจ้งแล้ว เมื่อมีคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์นำส่งสำเนาฎีกาในคดีอาญาเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ แม้โจทก์มิได้ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด กรณีก็ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฎีกา

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 84, 90, 91,264, 265, 267, 268

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของโจทก์ ให้โจทก์นำส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยทั้งสองแก้ ไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิด ต่อมาวันที่ 7 กันยายน 2541 เจ้าหน้าที่บริหารงานธุรการ กรมบังคับคดี รายงานศาลว่า คดีนี้ศาลได้ส่งหมายนัดสำเนาฎีกา แต่ปรากฏว่าระยะเวลาได้ล่วงเลยมานาน จนกระทั่งบัดนี้ โจทก์หรือผู้แทนโจทก์ไม่มาเสียค่าธรรมเนียมในการส่งหมาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่งว่าโจทก์ทิ้งฏีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์ฎีกาจะต้องนำส่งสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยทั้งสองหรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 200 ได้บัญญัติไว้ว่า "ให้ศาลส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งแก้ภายในกำหนดสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาอุทธรณ์" และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 216 วรรคสอง ได้บัญญัติว่า "ฎีกานั้น ให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นและให้นำบทบัญญัติแห่งมาตรา 200 และ 201 มาบังคับโดยอนุโลม" ดังนี้ศาลจึงต้องมีหน้าที่ส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยโดยตรงจะให้โจทก์เป็นผู้นำส่งหาชอบไม่ และจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 70 วรรคสอง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 มาใช้บังคับให้โจทก์เป็นผู้นำส่งสำเนาฎีกาก็หาได้ไม่ เพราะได้มีบทบัญญัติเรื่องการส่งสำเนาฎีกาไว้ตามบทกฎหมายดังกล่าวโดยชัดแจ้งแล้ว คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้โจทก์นำส่งสำเนาฎีกาจึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ แม้โจทก์มิได้ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวภายในกำหนดกรณีก็ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ทิ้งฎีกา ชอบที่ศาลชั้นต้นจะได้จัดการส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยทั้งสองและดำเนินการต่อไป

จึงมีคำสั่งให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นจัดการส่งสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยทั้งสองแล้วดำเนินการต่อไป

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นาย ไชยมงคล จุฑาจำเริญ จำเลย - นางสาว วรรณา เชาวะวนิชย์ กับพวก

ชื่อองค์คณะ ไพศาล เจริญวุฒิ อธิราช มณีภาค สมลักษณ์ จัดกระบวนพล

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th