ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175, 198

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 (เดิม) และมาตรา 198 (เดิม) เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 (เดิม) ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุก 2 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ได้โต้เถียงกันใน ชั้นฎีการับฟังยุติว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2551 ศาลชั้นต้นไต่สวนความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลที่จำเลยเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล และมีคำสั่งจำคุกจำเลย 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาพิพากษาแก้ ให้จำคุก 3 เดือน คดีถึงที่สุด ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลย และออกหมายจับจำเลยเพื่อบังคับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกา วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยได้ตามหมายจับนำตัวส่งศาลชั้นต้น จำเลยยื่นคำร้องว่าคดีของจำเลยขาดอายุความแล้ว การออกหมายจำคุกจำเลยเป็นการไม่ชอบ นางกัญญาณัฐ และนายสมภาศ ผู้พิพากษาศาลอาญาออกนั่งพิจารณาและวินิจฉัยคำร้องของจำเลยว่า อายุความที่จำเลยต้องรับผิดคือภายในห้าปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 98 (4 ) ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาวันที่ 24 เมษายน 2555 ถือว่าคำพิพากษาถึงที่สุด ในวันที่ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว เมื่อนับถึงวันที่จับกุมจำเลยได้ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 จึงไม่เกินกำหนดเวลาการลงโทษ และให้ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด ตามคำพิพากษาศาลฎีกาและสำเนารายงานกระบวนพิจารณา จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืน วันที่ 19 ตุลาคม 2559 จำเลยยื่นฟ้องนางกัญญาณัฐและนายสมภาศต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามสำเนาคำฟ้อง คดีหมายเลขดำที่ อท.29/ 2559 วันที่ 28 ตุลาคม 2559 ผู้เสียหายทั้งสองซึ่งเป็นผู้พิพากษาในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษายกฟ้องในชั้นตรวจฟ้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยยื่นฟ้องผู้เสียหายทั้งสองต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท. 86/2559 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษายกฟ้อง

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการแรกว่า ฟ้องโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยบังอาจยื่นฟ้องผู้เสียหายทั้งสองด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กล่าวหาว่าผู้เสียหายทั้งสองซึ่งเป็นผู้พิพากษากระทำผิดต่อหน้าที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีเจตนาพิเศษเพื่อช่วยเหลือนางกัญญาณัฐกับนายสมภาศให้พ้นจากการกระทำความผิด เป็นการดูถูกเหยียดหยามผู้เสียหายทั้งสอง ข้อความตามฟ้องดังกล่าวเป็นความเท็จ และฟ้องโจทก์ยังบรรยายถึงความจริงไว้แล้วว่าผู้เสียหายทั้งสองปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติของกฎหมาย มิได้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายเพื่อช่วยเหลือนางกัญญาณัฐกับนายสมภาศแต่อย่างใด เป็นการบรรยายฟ้องที่กล่าวโดยชัดแจ้งถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดฐานฟ้องเท็จ และดูหมิ่นผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 และ 198 ฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)

ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการต่อไปว่า การที่ผู้เสียหายทั้งสองพิพากษายกฟ้องโดยไม่ไต่สวนมูลฟ้องก่อนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อช่วยเหลือนางกัญญาณัฐและนายสมภาศหรือไม่ เห็นว่า แม้การบรรยายฟ้องของจำเลยจะถูกต้องตามกฎหมายและผู้เสียหายทั้งสองอาจจะสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้องได้ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 16 ก็ตาม แต่มิใช่ว่าจะต้องสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้องทุกคดี เพราะศาลชั้นต้นจะพิพากษายกฟ้องโดยไม่นัดไต่สวนมูลฟ้อง หรือนัดไต่สวนมูลฟ้องไว้แล้วแต่มีคำสั่งให้งดไต่สวนและพิพากษายกฟ้อง หรือไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิพากษายกฟ้องก็ได้ทั้งสิ้น ดังนั้น ในชั้นตรวจฟ้องที่ผู้เสียหายทั้งสองพิจารณาฟ้องของจำเลยแล้วเห็นว่า การกระทำของนางกัญญาณัฐและนายสมภาศที่มีคำสั่งให้ออกหมายจำคุกจำเลยตามคำพิพากษาศาลฎีกาไม่เป็นความผิด ผู้เสียหายทั้งสองชอบที่จะพิพากษายกฟ้องเสียได้ โดยไม่จำต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อน ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และใช้ดุลยพินิจในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบด้วยกฎหมาย มิได้เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อช่วยเหลือนางกัญญาณัฐและนายสมภาศตามที่จำเลยฎีกา

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยอีกประการว่า คำฟ้องของจำเลยที่ฟ้องผู้เสียหายทั้งสองเป็นฟ้องเท็จหรือไม่ เห็นว่า ผู้เสียหายทั้งสองพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่จำเลยบรรยายฟ้องมา และเห็นว่าการกระทำตามฟ้องไม่เป็นความผิด จึงใช้ดุลยพินิจไม่ไต่สวนมูลฟ้องและพิพากษายกฟ้อง โดยจำเลยไม่มีพยานหลักฐานว่าที่ผู้เสียหายทั้งสองใช้ดุลยพินิจดังกล่าวเพราะต้องการบิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อช่วยเหลือนางกัญญาณัฐและนายสมภาศให้พ้นผิด การกล่าวอ้างในฟ้องว่าผู้เสียหายทั้งสองปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต บิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพราะมีเจตนาพิเศษเพื่อช่วยเหลือนางกัญญาณัฐและนายสมภาศซึ่งเป็นผู้พิพากษาด้วยกันให้พ้นจากการกระทำผิด จึงเป็นการกล่าวหาว่าผู้เสียหายทั้งสองกระทำความผิดอาญา โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าผู้เสียหายทั้งสองไม่ได้กระทำความผิดตามที่จำเลยฟ้อง แต่จำเลยยังเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้เสียหายทั้งสองต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญาตามฟ้อง กระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานฟ้องเท็จ

ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการสุดท้ายว่า จำเลยมีความผิดฐานดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดีหรือไม่ เห็นว่า จำเลยบรรยายฟ้องว่าผู้เสียหายทั้งสองกระทำความผิดและมีคำขอท้ายฟ้องให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยกล่าวอ้างว่าการที่ผู้เสียหายทั้งสองไม่ไต่สวนมูลฟ้องก่อนมีคำพิพากษาเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ บิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ทั้งที่จำเลยไม่มีพยานหลักฐานที่จะนำสืบพิสูจน์ได้ เป็นการกล่าวหาอย่างเลื่อนลอยว่าผู้เสียหายทั้งสองพิจารณาพิพากษาคดีโดยมิชอบ และที่บรรยายฟ้องว่าผู้เสียหายทั้งสองไม่มีความยุติธรรมในใจให้กับตัวเองจริงหรือไม่ แม้จะเป็นการบรรยายแบบกึ่งคำถาม แต่เป็นการกล่าวทำนองตำหนิว่าผู้เสียหายทั้งสองไม่มีความยุติธรรม ฟ้องจำเลยมีข้อความที่ดูหมิ่นผู้เสียหายทั้งสองอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ผู้พิพากษาในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เป็นความผิดฐานดูหมิ่นผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.1121/2563

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th