ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทำสัญญาเช่าตึกแถวจากวัดราชาธิวาสวิหารจำเลยขออาศัยอยู่ในตึกแถวพิพาท และสัญญาว่าเมื่อครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ขนย้ายทรัพย์สินออกไป จำเลยยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ จำเลยผิดนัดไม่ยอมออกจากตึกแถวพิพาท โจทก์ให้ทนายความบอกกล่าวให้จำเลยและบริวารออกไปเพิกเฉย โจทก์ขอคิดค่าเสียหายจากจำเลย ขอให้บังคับจำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากตึกแถวพิพาท

จำเลยให้การว่า จำเลยกับนายวัชรพันธ์ กู้ยืมเงินจากนายจุนจำเลยชำระหนี้ไปแล้วบางส่วน คงค้างชำระอยู่อีก 300,000 บาทจำเลยโอนสิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทแก่โจทก์ ซึ่งเป็นภรรยานายจุนโดยพฤตินัย และตกลงกันว่าหากจำเลยชำระหนี้แก่นายจุนแล้วนายจุนจะโอนสิทธิการเช่าคืนแก่จำเลยและตกลงให้จำเลยอาศัยอยู่ในตึกแถวพิพาท ถ้าจำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ภายใน 5 ปีโจทก์ไม่คิดดอกเบี้ยแต่อย่างใด แต่ถ้าจำเลยชำระหนี้ไม่ทันตามกำหนดโจทก์คิดค่าตอบแทนการอยู่อาศัย 24,000 บาทต่อปีแทนดอกเบี้ยความจริงการที่จำเลยโอนสิทธิการเช่าให้โจทก์และโจทก์ทำสัญญาให้จำเลยอาศัย เป็นนิติกรรมอำพรางโจทก์จำเลยไม่มีเจตนาบังคับกันตามสัญญาดังกล่าว ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกจากตึกแถวพิพาทให้ชำระค่าเสียหายให้โจทก์นับแต่วันที่ 8 เมษายน 2531จนกว่าจำเลยและบริวารจะออกจากตึกแถวดังกล่าว

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยกู้ยืมเงินจากนายจุนสามีโจทก์มาประกอบการค้าโดยมอบเช็คลงวันที่ล่วงหน้า รวมทั้งเช็คตามเอกสารหมาย ล.5 ถึง ล.15 แก่นายจุนเพื่อชำระหนี้เงินที่จำเลยกู้ยืมมา มิใช่เป็นการประกันหนี้ เมื่อจำเลยไม่สามารถชำระหนี้ด้วยเช็คเพราะยังไม่มีเงินในบัญชีนายจุนจึงให้จำเลยโอนสิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทแก่โจทก์แทนและโจทก์ทำสัญญาให้จำเลยอาศัยอยู่ในตึกแถวพิพาท จึงเป็นกรณีที่นายจุนยอมรับชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ที่ได้ตกลงกันไว้ การทำนิติกรรมอำพรางนั้นขณะทำนิติกรรมคู่กรณีจะต้องมีเจตนาทำนิติกรรมอันหนึ่งขึ้นมาอำพรางนิติกรรมอีกอันหนึ่ง แต่คดีนี้ขณะจำเลยกู้ยืมเงินจากนายจุนสามีโจทก์ โจทก์จำเลยยังไม่มีเจตนาที่จะทำสัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทและสัญญาให้จำเลยอาศัยอยู่ในตึกแถวพิพาทมาปิดบังอำพรางนิติกรรมที่จำเลยกู้ยืมเงินสามีโจทก์ สัญญาโอนสิทธิการเช่าตึกแถวพิพาทและสัญญาให้อาศัยได้ทำขึ้นภายหลัง และมิได้ทำขึ้นโดยบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีเดียวกันจึงไม่อยู่ในความหมายของนิติกรรมอำพราง สัญญาให้อาศัยระหว่างโจทก์จำเลยจึงมีผลบังคับกันได้ตามกฎหมาย เมื่อจำเลยอยู่ในตึกแถวพิพาทครบกำหนดตามสัญญาแล้ว ไม่ยอมออกไปโดยโจทก์ไม่ยินยอม จึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th