สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2543

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 83/2543

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 247

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปหรือพิพากษาให้นำที่ดินตามฟ้องขายทอดตลาดมาแบ่งตามคำขอบังคับของโจทก์ท้ายคำฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี เท่ากับให้ดำเนินการสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป อันเป็น การสมประโยชน์ตามคำขอของโจทก์ในชั้นอุทธรณ์แล้ว โจทก์จะฎีกาขอให้พิพากษานำที่ดินตามฟ้องออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งตามคำขอบังคับของโจทก์ โดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดีอีก ไม่ได้ เพราะเป็นคำขอที่ขัดกับคำขอในชั้นอุทธรณ์

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ทั้งสามฟ้องขอให้ศาลพิพากษาให้นำที่ดินมรดก ออกขายทอดตลาดนำเงินที่ขายได้มาแบ่งให้แก่โจทก์ที่ ๑ จำนวน ๑ ใน ๒๔ ส่วนของกองมรดกของนาย ท. และนำเงินที่ขายได้แบ่งให้แก่โจทก์ที่ ๒ และที่ ๓ จำนวน ๑ ใน ๓ ส่วนของที่ดินตามฟ้องทั้งหมดทุกแปลง

จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๕ ที่ ๗ ที่ ๘ และที่ ๑๐ ขาดนัดยื่นคำให้การ

จำเลยที่ ๖ ที่ ๙ และที่ ๑๑ ถึงที่ ๑๖ ให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำฟ้อง คำให้การ และคำแถลงของคู่ความแล้ว เห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องฟังพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยจึงมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

โจทก์ทั้งสามอุทธรณ์ขอให้พิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป หรือพิพากษาให้นำ ที่ดินตามฟ้องออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งตามคำขอบังคับของโจทก์ทั้งสามท้ายคำฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่

โจทก์ทั้งสามและจำเลยที่ ๖ ที่ ๙ และที่ ๑๑ ถึงที่ ๑๖ ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ทั้งสามฎีกาขอให้ศาลฎีกาพิจารณาพิพากษาจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในคำฟ้อง คำให้การ แล้วพิพากษาให้นำที่ดินตามฟ้องออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งตามคำขอบังคับของโจทก์ทั้งสาม ท้ายคำฟ้องโดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดีนั้น เห็นว่า ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ทั้งสามอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปหรือพิพากษาให้นำที่ดินตามฟ้องขายทอดตลาดมาแบ่งตามคำขอบังคับของโจทก์ทั้งสามท้ายคำฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดีเท่ากับให้ดำเนินการสืบพยานโจทก์จำเลยต่อไป อันเป็นการสมประโยชน์ตามคำขอของโจทก์ทั้งสามในชั้นอุทธรณ์แล้ว โจทก์ทั้งสามจะฎีกาขอให้พิพากษานำที่ดินตามฟ้องออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งตามคำขอบังคับของโจทก์ทั้งสามท้ายคำฟ้อง โดยไม่ต้องย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดีอีกไม่ได้เพราะเป็นคำขอที่ขัดกับคำขอในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาไปตามคำขอของโจทก์ทั้งสามแล้ว จึงไม่มีสิทธิที่จะฎีกาได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้?

พิพากษายืน และให้ยกฎีกาโจทก์ทั้งสาม คืนค่าขึ้นศาลในชั้นฎีกาให้โจทก์ทั้งสาม.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางสาวสุวรรณา อำนวยพล กับพวก จำเลย - นายพิทักษ์ อำนวยพล กับพวก

ชื่อองค์คณะ วินัย ตุลยภักดิ์ พิชัย เตโชพิทยากูล วิชัย วิสิทธวงศ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลแพ่ง - นายกานต์ วงศ์ศิริ ศาลอุทธรณ์ - นายมงคล หวนถนอม

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th