ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


คดีนี้มีปัญหาว่าโจทก์ซึ่งเป็นผู้ปกครองโรงแจสำหรับสาธารณชนอันปลูกอยู่ในที่ดินของเอกชนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิโดยไม่มีตราทั้งนั้น จะมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยซึ่งเข้าไปรื้อสถานที่นั้นได้หรือไม่
ศาลต่างประเทศเห็นว่า โรงแจรายนี้เข้าอยู่ในกฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิตศาลเจ้า เมื่อโจทก์ไม่มีตราตั้ง จึงตัดสินยกฟ้องโจทก์โดยไม่พิจารณาคดีต่อไป
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโรงแจรายนี้ไม่เข้าอยู่ในกฎเสนาบดีที่ศาลต่างประเทศอ้าง จึงตัดสินกลับให้ศาลต่างประเทศพิจารณาคดีต่อไปแล้วตัดสินใหม่ตามรูปความ จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ว่า โรงแจรายพิภาษไม่เข้าอยู่ในกฎเสนาบดีว่าด้วยที่กุศลสถานชนิดศาลเจ้า เพราะโรงแจรายนี้ไม่ได้สร้างขึ้นประกอบกับศาลเจ้าดังที่อธิบายไว้ในตอนท้ายข้อ ๒ แห่งกฎเสนาบดี และข้อ ๓ ยังมีความจำกัดว่าศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในที่ดินของเอกชนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ (ดังเช่นคดีที่จำเลยต่อสู้ว่าที่ดินซึ่งตั้งโรงแจเป็นของนายโฮถุน) นั้นไม่เกี่ยวกับกฎฉบับนี้ด้วย จึงให้ยกฎีกาจำเลยเสีย
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









