ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23, 126 จำคุก 1 ปี ปรับ 20,000 บาท ตามมาตรา 71,148 ปรับ 4,000 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ตามคำวินิจฉัยศาลล่างทั้งสองว่า จำเลยเป็นผู้ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่งประจำทางจากนายทะเบียน รถยนต์คันเกิดเหตุเป็นรถยนต์โดยสารประจำทางของนายประสิทธิ์ จันทวารา ผู้ประกอบการขนส่งประจำทางระหว่างตัวจังหวัดอุบลราชธานีกับบ้านน้ำปลีก อำเภออำนาจเจริญ ขณะเกิดเหตุนายประสิทธิ์ จันทวารา ก็ยังมิได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบการขนส่งประจำทางจากนายทะเบียนเช่นกัน และขณะเกิดเหตุรถคันนี้ยังไม่ได้เสียภาษีประจำปี ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง จำเลยได้ขับรถยนต์คันนี้บรรทุกคนโดยสารในระหว่างเส้นทางดังกล่าว และถูกเจ้าพนักงานจับกุมกล่าวหาเป็นคดีนี้ขึ้น

มีปัญหาตามฎีกาโจทก์ในประเด็นข้อแรกว่า จำเลยเป็นผู้ประกอบการขนส่งอันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 23 หรือไม่ เห็นว่า ตามบทมาตราดังกล่าวได้บัญญัติห้าม มิให้ผู้ใดประกอบการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง การขนส่ง โดยรถขนาดเล็กหรือการขนส่งส่วนบุคคล เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นเพียงแต่คนขับรถยนต์ โดยสารของนายประสิทธิ์จันทวารา คันดังกล่าว จำเลยจึงอยู่ในฐานะเป็นผู้ประจำรถตามความในมาตรา 42(1) แห่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ หาใช่อยู่ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการขนส่งประจำทางตามความหมายของมาตรา 23 ไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดในฐานนี้ ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ส่วนปัญหาข้อที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยนำรถที่ใช้ในการขนส่งที่ไม่ได้เสียภาษีรถประจำปีไปใช้จะมีความผิดหรือไม่นั้น เห็นว่า รถที่ใช้ในการขนส่ง นอกจากรถนั้นจะต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรง มีเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง กับได้จดทะเบียนตามมาตรา 73 แล้ว ต้องเป็นรถที่ได้มีการเสียภาษีถูกต้องตามมาตรา 85 ด้วย จึงจะนำไปใช้ได้ ดังที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 71 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษดังที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 148 เมื่อฟังได้แล้วว่ารถคันเกิดเหตุไม่ได้เสียภาษีรถประจำปี จำเลยเป็นผู้ขับและนำไปใช้ขณะเกิดเหตุ การกระทำของจำเลยย่อมถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดในข้อหาฐานนี้ ที่ศาลอุทธรณ์ว่าไม่เป็นความผิด ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ ข้อนี้ฟังขึ้น

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 71,148 ปรับ 2,000 บาท ถ้าจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์"

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th