ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคน และมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่ได้รับอนุญาต จำเลยได้รับยกเว้นโทษตาม พ.ร.บ. อาวุธปืน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 9ลงโทษไม่ได้ และจำเลยมีผิดฐานพยายามฆ่าคนให้จำคุก 8 ปี ตามมาตรา 288, 80, 78 ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยประมาท ให้จำคุก 2 ปี ตามมาตรา 300 นอกนั้นยืนตาม
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้กระทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส โดยประมาท และวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า ความผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนาและความผิดฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสนั้น ลักษณะการกระทำแตกต่างกันอันถือว่าเป็นสาระสำคัญกล่าวคือ ในความผิดที่กระทำโดยประมาท โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องให้จำเลยทราบว่า การกระทำของจำเลยเป็นประการใด จึงเรียกได้ว่าจำเลยทำโดยประมาทจำเลยจะได้ต่อสู้คดีในฐานประมาทได้ด้วย หากโจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยในฐานประมาททำให้คนรับอันตรายแก่กายถึงสาหัสด้วย โจทก์ชอบที่จะบรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยเป็นท้องเรื่องมาในฟ้อง อันจะเห็นได้ว่าหากจำเลยไม่เจตนา จำเลยก็ได้กระทำการโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ เช่นนี้ ศาลก็ยังอาจจะลงโทษจำเลยฐานทำอันตรายแก่กายถึงสาหัสโดยประมาทได้ เพราะเป็นเรื่องอยู่ในฟ้องแล้ว ถ้าโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนาลอย ๆ เท่านั้น จะให้ศาลลงโทษจำเลยฐานประมาทหาได้ไม่
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








