ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖๔ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑, ๘๓, ๑๔๔

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖๔ (ที่ถูกมาตรา ๖๔ วรรคหนึ่ง) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๔ ประกอบด้วยมาตรา ๘๓ เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดมาตรา ๙๑?

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานร่วมกันให้ทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจ ให้กระทำการไม่กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ จำคุกคนละ ๑ ปี เมื่อรวมกับโทษจำคุกในความผิดฐานร่วมกันซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม? นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยทั้งสองฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้ฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า? สำหรับปัญหาว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิด ต่อกฎหมายหลายบทหรือไม่นั้น จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่า ความผิดฐานร่วมกันให้ทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๔ นั้น เกิดขึ้นระหว่างทางที่จำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์ กระบะพาคนต่างด้าวไปส่งที่กรุงเทพมหานคร จึงเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุมเท่านั้น เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องแยกการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองออกเป็นสองกรรมต่างกัน และมีคำขอท้ายฟ้องให้ลงโทษจำเลยทั้งสองแต่ละการกระทำความผิดทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ทั้งความผิดตามมาตรา ๖๔ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒ และความผิดตามมาตรา ๑๔๔ แห่งประมวลกฎหมายอาญา เป็นความผิดที่ผู้กระทำจะต้องมีเจตนาประสงค์ต่อผลต่างกัน กฎหมายจึงได้บัญญัติเป็นความผิดและ มีบทลงโทษสำหรับความผิดแต่ละอย่างแตกต่างกัน และลักษณะแห่งการกระทำความผิดสามารถแยกส่วนจากกันได้ แสดงถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายมุ่งประสงค์ที่จะลงโทษผู้กระทำความผิด ในแต่ละการกระทำเป็นกรณีไป แม้เหตุการณ์ ที่จำเลยทั้งสองถูกจับกุมจะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกับการกระทำผิดอีกฐานหนึ่งก็ตาม เมื่อจำเลยทั้งสองให้การ รับสารภาพตามฟ้อง จึงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสองรับว่าได้กระทำผิดต่อกฎหมายทั้งสองฉบับดังกล่าวข้างต้นอันเป็นความผิด หลายกรรมต่างกัน หาใช่เป็นความผิดกรรมเดียวดังที่จำเลยทั้งสองฎีกาไม่? ฎีกาของจำเลยทั้งสองทุกข้อฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th