ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาจะซื้อที่ดินเฉพาะส่วนในที่ดินโฉนดเลขที่ 118 เนื้อที่ 80 ตารางวา พร้อมบ้านเลขที่ 1409/18 ในราคา 470,000 บาทจากโจทก์ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมอาคารท้ายฟ้อง จำเลยผิดสัญญาโดยชำระเงินให้โจทก์เพียงงวดเดียว 10,000 บาท โจทก์บอกเลิกสัญญาแก่จำเลยแล้ว จำเลยเพิกเฉย ขอให้ขับไล่และให้ส่งมอบที่ดินและบ้านดังกล่าวในสภาพเรียบร้อยและให้ใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 118 แต่โจทก์ได้แสดงว่าเป็นเจ้าของหมู่บ้านศิริพร จัดสรรบ้านขายพร้อมที่ดิน โดยรับรองแก่บุคคลอื่นและจำเลยว่าหมู่บ้านศิริพรจะมีทั้งถนนคอนกรีตหรือลาดยางและน้ำประปาใช้อย่างสมบูรณ์ จำเลยหลงเชื่อจึงตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างจากโจทก์ในราคา 470,000 บาท แต่โจทก์ปล่อยถนนเป็นดินเป็นโคลนเดินทางเข้าออกลำบาก น้ำประปาไม่มีโจทก์เพียงแต่ต่อน้ำบาดาลให้ใช้ โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาและจำเลยทำหนังสือสัญญาเพราะสำคัญผิดว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้าง นิติกรรมระหว่างโจทก์จำเลยเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลย โจทก์เป็นหญิงมีสามี ฟ้องคดีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากสามี จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินและบ้านเลขที่ 1409/18 และส่งมอบบ้านกับที่ดินให้แก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อยพร้อมกับค่าเสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์มีอาชีพจัดสรรที่ดินและปลูกบ้านขายอยู่ที่หมู่บ้านศิริพร ซอยเสนานิคม 2 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร โจทก์ปลูกสร้างโรงเรือนเป็นทั้งบ้านและตึกมาแล้วประมาณ 100 กว่าหลังและได้ทำการจัดสรรโอนขายให้ผู้ซื้อไปเรียบร้อยแล้วไม่ คงเหลืออาคารที่ยังไม่ได้โอนขายเพียง 4 - 5 หลัง เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2520 จำเลยได้ทำสัญญาจะซื้อที่ดินเฉพาะส่วนในโฉนดเลขที่ 118 พร้อมอาคารตึกเลขที่ 1409/18 จากโจทก์ในราคา 470,000 บาท ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1 ปัจจุบันนางอุดมยังเป็นเจ้าของที่ดินเฉพาะส่วนที่ปลูกตึกรายพิพาทนี้ โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 118 ในปัญหาที่ว่าโจทก์มีอำนาจขายที่ดินและตึกรายพิพาทให้จำเลยหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ในขณะทำสัญญาก็ได้ เพราะสารสำคัญที่เป็นวัตถุประสงค์ของการซื้อขายก็คือ ให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์ไปโดยชำระราคาตามที่ตกลงกัน หากผู้ขายสามารถจัดการให้ผู้ซื้อได้กรรมสิทธิ์โดยชำระราคาตามที่ตกลงกันไว้ สัญญาจะซื้อขายนั้นก็ใช้ได้แล้ว เมื่อโจทก์มีความสามารถจัดการโอนที่ดินและตึกรายพิพาทให้จำเลยได้ โจทก์ย่อมมีอำนาจขายที่ดินและตึกรายพิพาทให้จำเลย

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th