ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

ได้ความว่าจำเลยเปนสมุหบัญชีกรมสาธารณะสุขที่ทำฎีกเบิกเงินไปให้ผู้รักษาราชการแทนอธิบดีลงนามเพื่อเบิกเงินจากกระทรวงพระคลัง แต่ผู้รักษาราชการแทนอธิบดีสงสัยจึงไต่สวน ปรากฏว่าบิลฉะบับหนึ่งเปนบิลของห้าง ส.มีจำนวนเงินที่โอสถศาลาซื้อเครื่องเวชภัณฑ์ราคา ๖๗๘๓ บาทเศษ มีลายเซ็นผู้อำนวยการโอสถศาลาสั่งให้ตั้งเบิก แต่ความจริงผู้อำนวยการโอสถศาลาหาได้สั่งและเซ็นขื่อในบิลนั้นไม่ บิลนั้นเปนบิลปลอมซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วดังนี้

ศาลเดิมตัดสินว่าคดีต้องด้วย ม.๒๒๗ จำเลยมีผิด ๒ กะทง คือ ฐานปลอมหนังสือสำคัญในรากขารตาม ม.๒๒๕ กะทงหนึ่ง ให้จำคุก ๓ ปี และฐานพยายามฉ้อตาม ม.๓๐๔ - ๖๐ อีกกะทงหนึ่ง ให้จำคุก ๑ ปี

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าบิลปลอมที่จำเลยใช้เปนเพียงหนังสือสำคัญ ไม่ใช่หนังสือสำคัญในราขการจึงตัดสินแก้ให้วางบทลงโทษจำเลยตาม ม.๒๒๕ ส่วนกำหนดโทษและนอกจากนี้ยืนตาม

จำเลยฎีกาเปนปัญหากฎหมาย และเถียงว่ารูปคดีไม่เปนพยายามฉ้อโกง

ศาลฎีกาเห็นว่าในปัญหาเรื่องพยายามฉ้อโกงนั้นจำเลยยังหาได้นำบิลไปส่งแก่เจ้าพนักงานคลังไม่จึงเปนแต่เพียงจำเลยเตรียมการเพื่อจะฉ้อ ไม่ถึงชั้นพยายามกระทำผิดตาม ม.๖๐ จึงตัดสินแก้ศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยกะทงเดียวตาม ม.๒๒๔ มีกำหนดจำคุก ๓ ปี

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th