ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยที่ 209/2556 ลงวันที่ 6 กันยายน 2556 ของจำเลย

จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนที่ 209/2556 ลงวันที่ 6 กันยายน 2556

จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงว่า สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 มีหนังสือที่ รง 0627/53628 ลงวันที่ 14 กันยายน 2555 แจ้งให้โจทก์ชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนเพิ่มเติม 75,125 บาท พร้อมเงินเพิ่มตามกฎหมายร้อยละ 3 ต่อเดือน โจทก์ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน ซึ่งต่อมาคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนมีคำวินิจฉัยที่ 209/2556 ลงวันที่ 6 กันยายน 2556 ให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ โจทก์ได้รับแจ้งผลคำวินิจฉัยดังกล่าวเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2556 โจทก์เรียกเก็บเงินค่าบริการจากลูกค้าที่มาใช้บริการในอัตราร้อยละ 10 จากยอดค่าใช้จ่ายต่อหนึ่งใบเสร็จรับเงิน โดยโจทก์ออกใบเสร็จรับเงินในนามโจทก์ แล้วโจทก์นำเงินค่าบริการดังกล่าวมาแบ่งจ่ายให้ลูกจ้างทุกคนเท่า ๆ กันเป็นประจำทุกเดือน ตาม "ระเบียบการจ่ายเงินค่าบริการ" แล้ววินิจฉัยว่าเงินค่าบริการมิใช่ค่าจ้างที่จะต้องนำไปรวมคำนวณจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า เงินค่าบริการเป็นค่าจ้างที่โจทก์ต้องนำมารวมคำนวณจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนหรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความเป็นยุติตามที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมาว่า โจทก์เรียกเก็บเงินค่าบริการจากลูกค้าที่มาใช้บริการในอัตราร้อยละ 10 จากยอดค่าใช้จ่ายต่อหนึ่งใบเสร็จรับเงิน โดยโจทก์ออกใบเสร็จรับเงินในนามโจทก์แล้วโจทก์นำค่าบริการดังกล่าวมาแบ่งจ่ายให้แก่ลูกจ้างทุกคนเท่า ๆ กัน เป็นประจำทุกเดือนตามระเบียบการจ่ายเงินค่าบริการ ดังนั้น การที่ลูกจ้างของโจทก์จะได้รับเงินค่าบริการมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับจำนวนค่าใช้จ่ายของลูกค้าเป็นสำคัญ โจทก์เป็นผู้เรียกเก็บเงินค่าบริการดังกล่าวจากลูกค้าแล้วนำมาจัดแบ่งให้แก่ลูกจ้างเท่านั้น จึงเป็นกรณีที่โจทก์ทำแทนลูกจ้างเพื่อความสะดวกและเพื่อให้กิจการของโจทก์ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย แม้โจทก์จะนำเงินค่าบริการที่เก็บจากลูกค้าได้ไปใช้เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการลูกจ้างของโจทก์ด้วยก็ตาม ก็ไม่อาจทำให้เงินค่าบริการซึ่งเป็นเงินของลูกค้าที่มาใช้บริการแปรสภาพเป็นเงินของโจทก์ที่จ่ายให้แก่ลูกจ้างไปได้ เงินค่าบริการจึงมิใช่ค่าจ้างตามความหมายในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.2537 ที่จะต้องนำมารวมคำนวณจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้นต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา ร.2231/2558

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th