สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8760/2556

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8760/2556

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 193/30, 419

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยคืนเงินส่วนต่างของราคาที่เกินไป อันสืบเนื่องมาจากที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ขายมิได้ส่งมอบรถให้ตรงตามรุ่นตามความประสงค์ของผู้ซื้อโดยมีผลต่างราคากันอยู่เป็นเงิน 94,000 บาท กรณีดังกล่าวย่อมไม่ถือว่าเงินส่วนที่โจทก์ชำระเกินไปดังกล่าวเป็นเงินที่จำเลยได้มาเพราะการที่โจทก์กระทำเพื่อชำระหนี้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ อันจะถือได้ว่าเป็นลาภมิควรได้ที่ตกแก่จำเลยซึ่งโจทก์จะต้องใช้สิทธิเรียกร้องเอาเงินคืนจากจำเลยเสียภายในกำหนดอายุความ 1 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 419 และกรณีดังกล่าวไม่มีกฎหมายว่าด้วยอายุความบัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงต้องบังคับตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 ซึ่งมีอายุความ 10 ปี นับแต่วันที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 94,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับเป็นว่า ให้จำเลยชำระเงิน 94,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้อง (วันที่ 5 พฤศจิกายน 2553) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความรวม 6,000 บาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้มีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายนั้น ศาลฎีกาจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 238 ประกอบมาตรา 247 ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฟังข้อเท็จจริงมาว่า โจทก์ประสงค์ซื้อรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด รุ่น RANGER RAS 2.5 L 4 ? 2 WLC XLS MT HR ซึ่งมีราคาขายปลีกตามใบราคายี่ห้อฟอร์ด คันละ 633,000 บาท กับจำเลยตามที่ผู้เช่าซื้อแสดงเจตนาขอเช่าซื้อรถรุ่นดังกล่าวไว้ การที่จำเลยส่งมอบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด รุ่น RANGER หมายเลขตัวรถ MNBBS 2 D 108 W 717165 เลขเครื่องยนต์ WLAT 895574 อันเป็นรถรุ่น RANGER RAS 2.5 L 4? 2 WLC XL MT ซึ่งมีราคาขายปลีกตามใบราคารถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด คันละ 539,000 บาท ให้แก่ผู้เช่าซื้อ จึงเป็นการส่งมอบรถไม่ตรงรุ่นตามที่ตกลงซื้อขายกับโจทก์

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยในปัญหาข้อกฎหมายประการเดียวว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความ 1 ปี ในฐานลาภมิควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 419 นั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยคืนเงินส่วนต่างของราคารถที่เกินไปจำนวน 94,000 บาท อันสืบเนื่องมาจากที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ขายมิได้ส่งมอบรถให้ตรงตามรุ่นตามความประสงค์ของผู้ซื้อโดยมีผลต่างราคากันอยู่เป็นเงิน 94,000 บาท โดยในทางปฏิบัติโจทก์ไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าจำเลยส่งมอบรถตรงตามข้อตกลงหรือไม่ เนื่องจากการส่งมอบรถเป็นการส่งมอบแก่ลูกค้าของโจทก์โดยตรง กรณีดังกล่าวย่อมไม่ถือว่าเงินส่วนที่โจทก์ชำระเกินไปดังกล่าวเป็นเงินที่จำเลยได้มาเพราะการที่โจทก์กระทำเพื่อชำระหนี้โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ อันจะถือได้ว่าเป็นลาภมิควรได้ที่ตกแก่จำเลยซึ่งโจทก์จะต้องใช้สิทธิเรียกร้องเอาเงินคืนจากจำเลยเสียภายในกำหนดอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 419 แต่อย่างใด และกรณีดังกล่าวเป็นการฟ้องเรียกเอาเงินส่วนต่างของราคารถที่โจทก์ชำระเกินไปคืน อันเนื่องมาจากการที่จำเลยส่งมอบรถไม่ตรงกับรุ่นที่ตกลงซื้อขาย ซึ่งไม่มีกฎหมายว่าด้วยอายุความบัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 ซึ่งมีอายุความ 10 ปี นับแต่วันที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ เมื่อปรากฏตามใบเสร็จรับเงินที่จำเลยออกให้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2551 มีการระบุรุ่นรถกระบะที่จำเลยส่งมอบแก่ลูกค้าผู้เช่าซื้อของโจทก์ไว้ด้วย กรณีถือได้ว่าโจทก์ทราบถึงการที่จำเลยส่งมอบรถไปไม่ตรงกับรุ่นที่ตกลงซื้อขายกันในวันดังกล่าว อันถือได้ว่าเป็นวันที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องให้จำเลยคืนเงินส่วนต่างของราคารถได้ เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ส่วนฎีกาประการอื่นของจำเลยไม่เป็นสาระอันควรวินิจฉัยเพราะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกาแทนโจทก์ 2,000 บาท

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พ.3036/2555

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัทเคทีบี ลีสซิ่ง จำกัด จำเลย - บริษัทมหานคร ออโตโมบิล จำกัด

ชื่อองค์คณะ รังสรรค์ ดวงพัตรา บูรณ์ ฐาปนดุลย์ ภาติยะ ดวงมณี

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลแขวงนนทบุรี - นายยศวัฒน์ กะระโสภณ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 - นางรัชนี สุขใจ

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th