ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้ราคารถยนต์ ๑,๔๕๓,๓๖๔.๕๕ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่สัญญาเลิกจนถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๑๕๗,๓๘๑.๔๖ บาท แก่โจทก์

จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๔ ให้การขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ ๓ ขาดนัดยื่นคำให้การ

จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้ราคารถยนต์เป็นเงิน ๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๕๐,๐๐๐ บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกเสีย

จำเลยที่ ๔ อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ยกฟ้องจำเลยที่ ๔ ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนจำเลยที่ ๔ โดยกำหนดค่าทนายความรวม ๒๒,๐๐๐ บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยที่ ๑ ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์กับโจทก์ จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ เป็นผู้ค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม และจำเลยที่ ๑ ประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวไว้ต่อจำเลยที่ ๔ โดยจำกัดความรับผิดเป็นเงิน ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท กรมธรรม์ประกันภัยระบุข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ ๑ กับจำเลยที่ ๔ ไว้ว่า ในกรณีมีความสูญหายหรือความเสียหายที่มิอาจซ่อมได้ จำเลยที่ ๔ จะใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามส่วนได้เสียก่อน ต่อมารถยนต์คันดังกล่าวประสบอุบัติเหตุเสียหาย และจำเลยที่ ๔ จ่ายเงินจำนวน ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท เต็มตามความรับผิดในสัญญาประกันภัยแก่จำเลยที่ ๑ ไปแล้ว ในส่วนของจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ร่วมกันใช้ราคารถยนต์แก่โจทก์เป็นเงิน ๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท

คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยที่ ๔ ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ชำระราคารถยนต์ดังกล่าวแก่โจทก์หรือไม่ เห็นว่า กรมธรรม์ประกันภัยซึ่งจำเลยที่ ๑ ผู้เอาประกันภัยทำไว้ต่อจำเลยที่ ๔ ผู้รับประกันภัย ระบุว่า ในกรณีที่มีความสูญหายหรือความเสียหายที่มิอาจซ่อมได้ จำเลยที่ ๔ จะใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ผู้รับประโยชน์ตามส่วนได้เสียก่อนนั้น เป็นสัญญาประกันภัยซึ่งจำเลยที่ ๔ กับจำเลยที่ ๑ ตกลงกันว่าจะให้บุคคลภายนอกได้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยควรได้รับ อันเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์แก่บุคคลภายนอก ตามความใน ป.พ.พ. มาตรา ๓๗๔ เมื่อมาตรา ๓๗๔ วรรคสอง บัญญัติว่า? สิทธิของบุคคลภายนอกย่อมเกิดมีขึ้นตั้งแต่เวลาที่แสดงเจตนาแก่ลูกหนี้ว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้น แต่ตามทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้แสดงเจตนาแก่จำเลยที่ ๔ ว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญาดังกล่าวเลย ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ก็เบิกความตอบคำถามค้านทนายจำเลยที่ ๔ ตอนหนึ่งว่า ในวันที่จำเลยที่ ๔ มอบเช็คชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่จำเลยที่ ๑ พยานมิได้คัดค้านว่าจะต้องชำระให้แก่พยานในฐานะผู้รับประโยชน์ และก่อนหน้านี้โจทก์ก็มิได้มีหนังสือแสดงเจตนาที่จะใช้สิทธิในฐานะเป็นผู้รับประโยชน์ไปยังจำเลยที่ ๔ ด้วย ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ยุติว่า โจทก์มิได้แสดงเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันภัย สิทธิของโจทก์จึงยังไม่เกิดขึ้นตาม ป.พ.พ. มาตรา ๓๗๔ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกร้องให้จำเลยที่ ๔ ใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีคืนทุน หรือกรณีที่รถยนต์เสียหายโดยสิ้นเชิงแก่โจทก์ ตามกรมธรรม์ประกันภัยได้ เรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา ๑๐,๐๐๐ บาท แทนจำเลยที่ ๔ ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาส่วนที่เกินจากทุนทรัพย์ ๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท แก่โจทก์.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th