ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ซื้อสิทธิเหนือพื้นดินในที่ดินของวัดญวนสามเสนส่วนหนึ่งจากผู้มีสิทธิครอบครองอยู่เดิม โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสแล้ว และโจทก์ได้เข้าปลูกบ้านในที่นั้น ต่อมาสามีโจทก์ถูกฟ้องคดีแพ่ง และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดบ้านที่โจทก์ปลูกไว้ขายทอดตลาด จำเลยในคดีนี้เป็นผู้ประมูลซื้อได้และโอนกรรมสิทธิ์แล้ว โจทก์ถือว่าโจทก์มีสิทธิเหนือพื้นดินดังกล่าว จึงแจ้งให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไป จำเลยไม่ยอมรื้อ ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยรื้อ
จำเลยให้การต่อสู้คดีหลายประการ และว่าโจทก์มีแต่สิทธิอาศัยและมิได้จดทะเบียนจึงใช้อ้างยันจำเลยไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ
โจทก์ฎีกาว่าสิทธิเหนือพื้นดินไม่เป็นทรัพยสิทธิและไม่ต้องจดทะเบียนฯ
ศาลฎีกาเห็นว่า สิทธิเหนือพื้นดินนั้นได้มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 ลักษณะ 6 และเป็นทรัพยสิทธิอย่างหนึ่งซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายดังที่มาตรา1298 บัญญัติไว้ และตามมาตรา 1299 ทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้นจะต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะสมบูรณ์ คดีนี้โจทก์มีสิทธิสร้างบ้านในที่ดินของวัดซึ่งเจ้าอาวาสอนุญาตแล้ว แต่ก็มิได้จดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โจทก์จึงหามีสิทธิเหนือพื้นดินที่สร้างบ้านนั้นไม่ และไม่มีทรัพยสิทธิอย่างใดในที่ดินนั้น ทั้งบ้านที่ปลูกสร้างนั้นก็เป็นของจำเลย ไม่ใช่ของโจทก์แล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิอะไรที่จะฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยรื้อบ้านออกไปได้
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








