โจทย์ฟ้องว่าจำเลยเบิกความเท็จโดยเจตนาจะแกล้งให้โจทย์ได้รับโทษ ขอให้ศาลโปริสภาที่ ๒ ไต่สวนเพื่อโจทย์จะได้ฟ้องจำเลยต่อศาลอาญา

ศาลโปริสภาเห็นว่า ย.ภรรยาโจทย์ได้ฟ้องจำเลยนี้ว่าเบิกความเท็จมาหนหนึ่งแล้วแต่โจทย์ไม่ได้เข้าชื่อฟ้องด้วย และคดีนั้นศาลได้ยกฟ้องของ ย.เสียโดยถือว่าไม่เปนเท็จ โจทย์จึงมาฟ้องจำเลยอีก จึงเห็นว่าไม่มีมูลที่ควรเรียกจำเลยมาไต่สวน จึงไม่รับฟ้อง

ศาลอุทธรณ์ยืน

โจทย์ฎีกาข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างจะยกเอาคดีที่ ย.ฟ้องจำเลยและศาลได้ยกฟ้องเสียนั้นมาเปนเหตุตัดไม่ให้โจทย์ฟ้องอีกนั้นไม่ต้องด้วยทางพิจารณาเพราะ

๑ คดีนี้เปนคดีอาญา โจทย์อ้างว่าโจทย์ได้รับความเสียหาย เพราะจำเลยแกล้งฟ้องเท็จเพื่อให้โจทย์ต้องรับโทษ

๒ โจทย์กับ ย. แม้เปนผัวเมียกันก็จริง แต่เรื่องนี้ต้องถือว่าเปนคนละคน ต่างมีสิทธิฟ้องได้

๓ ศาลจะยกเอาการพิจารณาคดีเรื่องหนึ่งมาเปนเหตุไม่รับฟ้องโจทย์ในคดีเรื่องนี้ไม่ได้

ให้จัดการไต่สวนเรื่องนี้ไปตามกระบวนความ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา