ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


ที่พิภาษนี้ได้ความว่า โจทก์ซึ่งเปนมารดา พ.กับบิดามารดา ค.ได้ออกเงินคนละครึ่งซื้อให้ ค.พ.ผัวเมียทำกิน ค.พ.ได้เข้า
ปกครองเก็บผลประโยชน์มา ๒๐ ปี โจทก์มิได้เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างใด ส่วนจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๖ ซึ่งเปนบุตร์ ค.พ.ก็อยู่กับบิดามารดามา พ.ตาย โจทก์กับ ค.เปนความกันเรื่องที่สวนรายนี้ แล้วทำยอมกันยกที่สวนให้แก่บุตร์ของ ค. บัดนี้โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เข้าไปเก็บทุเรียน จำเลยที่ ๑ -๒ -๓ คนพรรคพวกเข้าแย่งทุเรียนจากโจทก์ และหมิ่นประมาทดาว่าโจทก์ด้วยคำหยาบช้า มีปัญหาว่าโจทก์จะเรียกที่สวนคืนในฐานที่จำเลยประพฤติเนรคุณได้หรือไม่
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลล่างทั้ง ๒ ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิจะเรียกสวนคืนตามประมวลแพ่ง ม.๕๓๑ ข้อ ๒ ได้ เพราะไม่เข้าในลักษณที่โจทก์ในทรัพย์แก่จำเลย ๆ ได้ทรัพย์เปนกรรมสิทธิโดยทางสัญญายอมความต่างหาก จึงให้ยกฟ้องโจทก์เสีย
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








