ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 6,13 ทวิ, 62, 89, 106, 116 คืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 62 วรรคหนึ่ง, 89,106 วรรคหนึ่ง กรณีเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุก 5 ปี คืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่าลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้น อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2536 เวลาประมาณ 17 นาฬิการ้อยตำรวจตรีชัยรัตน์ ขาวฉลาด กับพวก ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอคอนสวรรค์จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกันจับกุมจำเลยพร้อมกับยึดได้เมทแอมเฟตามีนจำนวน 11 เม็ดน้ำหนัก 0.87 กรัม เป็นของกลางคดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าพยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงเชื่อได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องแต่ที่ศาลลางทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในความครอบครองและขายเมทแอมเฟตามีนเป็นความผิดกรรมเดียวกันแต่ผิดกฎหมายหลายบทนั้น เห็นว่า ตามข้อเท็จจริงที่ได้ความจากพยานหลักฐานโจทก์ปรากฏว่า หลังจากสายลับได้ล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจำนวน 8 เม็ด จากจำเลยแล้วเจ้าพนักงานตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นบ้านจำเลยพบเมทแอมเฟตามีนจำนวน 3 เม็ด ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่ต่อเนื่องกันมาโดยตลอดทั้งเมทแอมเฟตามีนจำนวน 8 เม็ดและ 3 เม็ด ไม่ปรากฏว่าต่างชนิดกัน และมีน้ำหนักใกล้เคียงกันจึงฟังได้ว่าเมทแอมเฟตามีนทั้ง 11 เม็ด เป็นจำนวนเดียวกันจำเลยขายและมีไว้ในครอบครองในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกัน การที่จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 3 เม็ดในวันเวลาเดียวกันและต่อเนื่องกับที่จำเลยขายเมทแอมเฟตามีนจำนวน 8 เม็ด ไปนั้น ตามพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 3 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อขายนั่นเอง ซึ่งการขายหรือมีไว้เพื่อขายเป็นความผิดอย่างเดียวกันการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวคือการขายที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในความครอบครองและขายเมทแอมเฟตามีนโดยเป็นความผิดกรรมเดียวกันแต่ผิดกฎหมายหลายบทนั้นจึงไม่ถูกต้อง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบรอย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกาศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสองประกอบด้วย มาตรา 225

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานขายวัตถุออกฤทธิ์ชนิดเมทแอมเฟตามีนตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่งและมาตรา 89 เพียงกระทงเดียว นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th